ราชเทวีคลินิก สาขาภูเก็ต ตั้งอยู่ที่ ชั้น 4 ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เฟสติวัล ภูเก็ต (ถนนเฉลิมพระเกียรติ) โทร. 076 367 011 - 2 ค่ะ  **ไม่มีรูปส่งเข้ามาน่ะค่ะ**

รอยดำที่ขา เบื้องต้นแนะนำให้ลองใช้ Body AHA ดูนะคะ  เคยมีคนรีวิวไว้ใน Youtube ตาม Link นี้ค่ะ

http://www.youtube.com/watch?v=VTswq3ieK7k

แต่ถ้าหากมีเวลาแนะนำให้ลองเข้ามาพบและปรึกษาคุณหมอดูนะคะ เพราะตอนนี้เรามีผลิตภัณฑ์กลุ่ม Whitening ที่ช่วยลดรอยดำจากการอักเสบหลายตัวด้วยกันค่ะ

รอยแผลเป็นที่เป็นรอยดำที่ขา นั้นตามธรรมชาติแล้วจะจางลงเรื่อยๆ แต่ใช้เวลานานหลายเดือนหรือเป็นปี ระยะเวลาในแต่ละคนไม่แน่นอน ขึ้นอยู่กับรอยแผลด้วยว่าดำมากหรือน้อย อายุ ถ้าเป็นในผู้ใหญ่รอยดำก็จะจางช้ากว่าในเด็ก เพราะฉะนั้นการป้องกันก่อนที่จะเกิดรอยดำจะดีที่สุดค่ะ  โดยถ้าเป็นจากถูกยุงกัดหรือแมลงกัดก็ใช้ยาทาป้องกัน เมื่อถูกกัดเป็นตุ่มคันให้รีบทายาแก้คันบริเวณจุดนั้น

การรักษา แนะนำว่าควรใช้ยาทาลดรอยดำ ใช้มอยส์เจอไรเซอร์บริเวณรอยดำ และพยายามหลีกเลี่ยงแสงแดด ไม่เกาหรือแกะซ้ำ ซึ่งจะทำให้รอยดำยิ่งดำขึ้นค่ะ และมีเลเซอร์ที่ใช้รักษารอยดำได้ จะได้ผลดีหรือไม่ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น สีผิว ถ้าสีผิวคล้ำมักจะได้ผลไม่ดีเท่าคนผิวขาว หลังจากทำเลเซอร์แล้วถ้ายังไม่จางลง จะทำซ้ำอีกครั้งในช่วง 1-2 เดือน ลองปรึกษาคุณหมอดูนะคะ

วีธีรักษารอยดำที่ขา
2.1 การทายา กลุ่มยาลดรอยดำ (Bleaching) หรือกรดผลไม้ (AHA)
2.2 การทำ (AHA Treatment) เพื่อลดรอยดำ
2.3 ทำ LASER / IPL เพื่อลดรอยดำ

อัตราค่าบริการขึ้นอยู่กับเทคนิควิธีการรักษาที่ใช้ค่ะ หากยิงเลเซอร์ / IPL ขึ้นอยู่กับปริมาณของรอยดำที่เป็นและจำนวน shot ที่ยิงค่ะ

สำหรับแผลรอยดำจากท่อไอเสียที่ไม่ได้เป็นรอยแผลนูนหรือคีลอยด์ โดยปกติแล้วราชเทวีคลินิก มี Aesthetic Scar ศูนย์ดูแลรักษาสิว แผลเป็นหลุม แผลเป็นนูน และคีลอยด์ ด้วยการใช้เทคนิคการรักษาแบบ SR Technique, SM Technique ค่ะ

- SR Technique (Scar Reconstruction Technique) เป็นเทคนิคการผสมผสานวิธีการตกแต่งรอยแผลเป็นหลุมให้เรียบเสมอใกล้เคียงผิวปกติ
- SM Technique (Scar Modulation Technique) เป็นเทคนิคการปรับผิวและฟื้นฟูสภาพผิวให้เรียบเนียน ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ เพิ่มความแข็งแรงให้แก่เซลล์ผิว

สามารถรักษาให้ดีขึ้นได้ค่ะ ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับความต่อเนื่องในการรักษารวมไปถึงการตอบสนองของผิวแต่ละคนด้วยค่ะ  ส่วนค่าใช้จ่ายก็ขึ้นอยู่กับเทคนิควิธีการรักษาหรือเครื่องมือที่ใช้ ซึ่งคุณหมอจะพิจารณาใช้เทคนิควิธีการรักษาหรือเครื่องมือที่เหมาะสมกับคนไข้แต่ละรายอยู่แล้วค่ะ

แนะนำให้ลองเข้าพบและปรึกษาแพทย์ดูนะคะ เพื่อให้แพทย์ได้ตรวจวินิจฉัยจากสภาพผิวและปัญหาผิวจริง จึงจะประเมินและวางแผนการรักษาที่ถูกต้องจำเป็นและเหมาะสมกับคุณให้ต่อไปค่ะ