สิวเรื้อรัง
เป็นสิวบ่อยมากและมักเป็นสิวอักเสบที่ผิวหนังบวมแดงขึ้นมาด้วย ทำให้เมื่อหายทิ้งรอยแดงไว้และจางยากมาก อยากทราบสาเหตุและวิธีการที่ทำให้ไม่เป็นสิวอักเสบบวมแดงรวมทั้งวิธีรักษารอยแดงให้จางด้วยค่ะ ขอบคุณค่ะ
คำถามที่:Q16117| จากคุณtianchee| 15/12/2556 00:00 น.
การรักษาสิวอักเสบคือการป้องกันยับยั้งไม่ให้สิวเกิดการอักเสบและรอยแผลเป็นตามมาค่ะ แนะนำวิธีการตัดวงจรยับยั้งไม่ให้สิวเกิดการอักเสบด้วยการใช้ Acne Touch TYPE II ค่ะ

สิว TYPE I คือ สิวอุดตัน ทั้งสิวหัวเปิด (หัวดำ) และสิวหัวปิด (หัวขาว) สามารถหลุดออกเอง หรือกดออก

สิว TYPE II จะมีลักษณะอาการคันๆ เจ็บๆ สีชมพูเรื่อๆ แต่ยังไม่ถึงกับอักเสบ ซึ่งสิว TYPE II นี้จะมีอาการอยู่เพียง 2 วัน หากเราไม่สามารถตัดวงจรการเกิดสิวที่ TYPE II นี้ สิวก็จะกลายไปเป็นสิวอักเสบต่อไป ประมาณกลางเดือน พ.ย. นี้ราชเทวีคลินิกกำลังจะมีผลิตภัณฑ์ ชื่อ Acne Touch TYPE II เป็นครีมที่ใช้ทาหรือแต้มที่สิว TYPE II เพื่อตัดวงจรสิว ไม่ให้กลายไปเป็นสิว TYPE III หรือสิวอักเสบ โดยเมื่อรู้สึกมีอาการคัน และ/หรือเจ็บ และ/หรือมีสีชมพูเรื่อๆ ที่เม็ดสิว ให้แต้มครีม Acne Touch TYPE II นี้ทันที และควรแต้มบ่อยๆ ทุกสองชั่วโมงจะช่วยหยุดสิวและไม่กลายไปเป็นสิวอักเสบต่อไป และเมื่อไม่เป็นสิวอักเสบก็จะไม่มีรอยแผลเป็นจากสิวตามมาค่ะ

สิว TYPE III คือ สิวอักเสบที่มีลักษณะบวม แดง มีหัวหนอง หรือสิวหัวช้าง นั่นเอง หากเป็นสิวอักเสบแล้วควรพบและปรึกษาแพทย์เพื่อรักษาต่อไปค่ะ

เมื่อเป็นรอยดำรอยแดงจากสิวแล้ว โดยปกติรอยดำรอยกแดงนี้จะสามารถจางหายไปได้เอง แต่อาจใช้เวลานานเป็นเดือนหรือเป็นปี มีวิธีการรักษารอยดำรอยแดงจากสิวมีวิธีการรักษาตั้งแต่การทายา ทำทรีทเมนท์เสริมการรักษา ทำหัตถการ (เลเซอร์ต่างๆ) ในคนไข้บางรายอาจจะต้องใช้หลายๆวิธีผสมผสานกัน

แนะนำให้ลองพบและปรึกษาแพทย์เพื่อให้แพทย์ได้ตรวจวินิจฉัยพร้อมประเมินและวางแผนการรักษาที่ถูกต้องจำเป็นและเหมาะสมให้กับคุณค่ะ

ตอบโดย:ราชเทวีคลินิก| วันที่ 30/12/2556

จาก: 0 คน
VIEWS
2759