1. ลำดับการใช้ยาตอนเช้า 5%BP , CM Lotion , Aloe Si และครีมกันแดด ส่วนตอนเย็น 5%BP , CM Lotion , AHA , Aloe Si ค่ะ

2. AHA cream ต่างกับ AHA gel ตรงที่ AHA gel เหมาะสำหรับคนผิวมัน ส่วน AHA cream เหมาะสำหรับผิวธรรมดา-แห้ง และ RHA gel เป็น AHA สำหรับผิวที่มีการระคายเคืองง่ายค่ะ

3. จากคำถาม ผิวของคุณจัดอยู่ในลักษณะที่เรียกว่า หน้ามัน-ผิวแห้ง คือ มีทั้งความมันและผิวลอกแห้งในบริเวณเดียวกัน ปกติแล้วความมันบนผิวหน้าจะมาจาก 2 ส่วน คือ ไขมันที่ผลิตจากต่อมไขมัน กับ ไขมันส่วนที่อยู่ระหว่างเซลล์ผิวหนัง

หน้ามันของคุณก็หมายถึง ไขมันที่ผลิตจากต่อมไขมันยังเป็นปกติอยู่ แต่ผิวแห้ง คือ ไขมันส่วนที่อยู่ระหว่างเซลล์ผิวไม่เพียงพอ หรือจะเรียกง่ายๆ ว่า ผิวขาดความชุ่มชื้นนั่นเอง ซึ่งผิวขาดความชุ่มชื้นจะพบได้บ่อย จากคนที่ชอบใช้สบู่มีฟองมากๆ ล้างหน้าบ่อยๆ , ใช้โทนเนอร์ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์เช็ดหน้า , จากความชื้นในอากาศต่ำ อย่างเช่น อากาศหนาวหรืออยู่ในห้องแอร์ อากาศแห้งนี้ก็จะเป็นตัวดูดความชุ่มชื้นของผิวเราออกไป

ถ้าเป็นภาวะแบบนี้คงต้องเลือกใช้มอยส์เจอไรเซอร์ให้เหมาะค่ะ คือ มอยส์เจอไรเซอร์ที่ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวหนัง ปิดช่องว่างระหว่างเซลล์ เช่น Jojoba oil , Mineral oil , Propylene glycol , Dimethicone แต่ถ้าผิวคุณยังแห้งมาก ก็ต้องเลือกใช้มอยส์เจอไรเซอร์ประเภท Occlusive คือ เคลือบผิวป้องกันการสูญเสียน้ำของผิว เช่น Paraffin , Petrolatum , Silicone , Lanolin , Beewax , Ceramides

ข้อเสีย คือ จะค่อนข้างเหนียวเหนอะหนะ ซึ่งมอยส์เจอไรเซอร์ทั้งสองประเภทเราสามารถหาซื้อได้ทั่วไป แต่เพื่อความมั่นใจอีกนิดให้ดูด้วยว่ามอยส์เจอไรเซอร์ชนิดนั้นไม่ก่อให้เกิดสิว โดยผู้ผลิตจะใช้คำว่า " non-comedogenic " เขียนกำกับไว้ด้วยค่ะ

สิ่งสำคัญ คือ ถ้าคุณผิวแห้งและลอกอยู่ไม่ควรใช้ 5%BP, CM Lotion และ AHA ทั้ง gel และ cream ควรใช้แต่มอยส์เจอไรเซอร์และครีมกันแดด รอให้ผิวชุ่มชื่นจึงจะกลับมาใช้ยาตามปกติค่ะ