1. Whiteening - K มีส่วนประกอบหลักเป็น Kojic acid ซึ่งออกฤทธิ์ทำให้ผิวหน้าขาวขึ้นค่ะ... ส่วน VALP เป็น Vitamin A ที่มีความเข้มข้นน้อยมากๆ แต่สามารถดูดซึมได้ดี เนื่องจากละลายอยู่ใน Liposome ซึ่งช่วยนำพาตัวยาให้ซึมลงสู่ผิวได้ดีขึ้น โดยที่มีผลระคายเคืองผิวน้อยลง ครีมในกลุ่ม Vitamin A ควรทาที่ผิวเพียงบางๆ ในช่วงก่อนนอน เพื่อช่วยทำให้ผิวขาวขึ้น และชะลอการเกิดริ้วรอย นอกจากนี้ยังมีฤทธิ์ช่วยในปัญหาเรื่องสิวเสี้ยนด้วยค่ะ ซึ่งก่อนใช้แพทย์ที่ให้การรักษาจะแนะนำวิธีการใช้ และตรวจสภาพผิวว่าเหมาะสมหรือไม่ค่ะ

2. การทำ Treatment บ่อยแค่ไหน ขึ้นอยู่ว่าทำ Treatment แบบใดและสภาพผิวเป็นอย่างไร ประโยชน์ คือ ให้ผลรักษาในเรื่องของการทำให้ผิวชุ่มชื่นขึ้น หรือทำให้ผิวหน้าขาวใสได้เร็วขึ้น (ขึ้นอยู่กับชนิดของ Treatment) ซึ่งเสริมกับการทาครีมเป็นประจำได้ค่ะ

3, 4 สำหรับผิว sensitive skin ซึ่งเกิดการระคายเคืองง่าย อาจไม่สามารถใช้ครีมที่มีฤทธิ์ช่วยให้ผิวหน้าขาวขึ้นได้ดี อย่าง AHA หรือ Vitamin A ได้ การใช้ Whitening agent เช่น Whitening-K เป็นทางเลือกที่ดีค่ะ แต่อย่างไรก็ตามสำคัญที่การทาครีมบำรุงและครีมกันแดดเป็นประจำ ดูแลผิวให้ถูกต้อง เช่น หลีกเลี่ยงการล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น หรือใช้สบู่ โฟมที่มีฟองมาก ไม่ควรล้างหน้าบ่อย หรือขัดถูผิวหน้าแรงๆ หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของแอลกอฮอล์ เช่น Toner ก็จะทำให้ผิวนุ่มเนียน ชุ่มชื่น ดูสดใสขึ้นค่ะ