ตอบคุณ SONY
ข้อมูลที่ถามมาค่อนข้างน้อย ไปหน่อยครับ คำว่า จุดด่างดำของหนูค่อนข้างกว้างไปครับ ยังต้องแยกไปอีกว่า เป็นรอยดำจากการอักเสบของสิว หรือ รอยฝ้า กระ หรือรอยแผลเป็นจากอุบัติเหตุ เพราะลักษณะของการรักษาก็จะแตกต่างกัน
การรักษาผิวหนังของคน ไม่ใช่การใช้ LIQUID PAPER ลบจุดดำบนกระดาษ นะครับ คุณ SONY อย่าไปจินตนาการแบบนั้น ดังนั้น ไม่ใช่ว่าเรามีรอยดำบนหน้า แล้วคุณหมอก็หยิบยาขึ้นมา แล้วบอกคนไข้ให้ไปแต้มๆ แล้วรอยก็หายภายใน 1 สัปดาห์ ( ส่วนใหญ่การบอกลักษณะอย่างนั้นจะเป็นพวกโฆษณาขายยาเร่ตามต่างจังหวัดนะครับ )
สภาพผิวหนังของคน ต้องใช้เวลาสร้างเซลล์ขึ้นมาใหม่แทนเซลล์เก่า ดังนั้นต้องใช้เวลา ถ้าจินตนาการน่าจะเปรียบเหมือนกับปลูกต้นไม้มากกว่า ค่อยๆ ผลิใบใหม่แทนใบเก่า ไม่ใช่ใส่ปุ๋ยวันนี้พรุ่งนี้โตเลย
หรืออย่างกรณีที่เป็นรอยดำจากสิว การรักษาไม่ใช่มัวแต่ไปรักษารอย ต้องรักษาสิวก่อนเพื่อหยุดยั้งการเกิดรอยใหม่ พอสิวหายแล้วก็รักษารอยที่เป็นอยู่ ไม่อย่างนั้นก็มีรอยใหม่ขึ้นเรื่อยๆ ถ้าสิวไม่หาย
การให้ยาไปรักษา ส่วนใหญ่คุณหมอก็จะค่อยๆ ปรับตามสภาพผิว อธิบายง่ายๆ ถ้ายามีความเข้มข้นตั้งแต่ 1-10 เราก็จะเริ่มที่ 1 ก่อนเมื่อผิวปรับได้ก็จะค่อยๆ เปลี่ยนไปตามสภาพผิว ถ้านึกไม่ออก ให้คิดเหมือนออกกำลังกายครับ สมมติคุณ SONY ไม่เคยออกกำลังกาย วันนี้เกิดฟิตวิ่งไปสัก 10 กิโลเมตร หมอคิดว่าคุณ SONY คงจะแย่แน่ๆ เลยครับ ตามหลักต้องค่อยๆ เพิ่มวันละกิโล
หมอคิดว่าปัญหาของคุณ SONY คือ มีความคาดหวังสูงที่เกินความเป็นจริง และไม่เข้าใจวิธีการรักษา ซึ่งวิธีที่ดีที่สุดถามคุณหมอที่รักษาคุณ SONY ซิครับ
เปรียบเสมือนกับจะนั่งรถจากกรุงเทพฯ ไปพัทยาจะต้องใช้เวลา 1 ชั่วโมงครึ่ง แต่คุณ SONY นัดเพื่อนไว้อีกครึ่งชั่วโมงเจอกันที่พัทยา แล้วคุณ SONY หวังว่าจะนั่งรถทัวร์ไปให้ทัน ถ้ายอมรับความจริงมันก็คือ ไม่มีทางทันก็จะผิดหวัง ก็เกิดอารมณ์โมโหสั่งคนขับรถทัวร์ให้ขับเร็วกว่านี้หวังว่าจะทัน แต่ก็มีความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุเพิ่มขึ้น ถ้าคนขับไม่ทำตาม คุณ SONY ซึ่งเป็นผู้โดยสารจะว่าคนขับรถว่าไม่ตั้งใจขับทำให้ผู้โดยสารถึงที่หมายช้า หมอก็คิดว่าไม่ค่อยถูกต้องนัก
คนที่เป็นหมอมีสติปัญญาพอสมควรครับที่จะคิดอะไรเหมือนที่คนธรรมดาทั่วไปคิดได้ครับ ว่าถ้าตั้งใจรักษาคนไข้ให้หายเร็วๆ ปลอดภัย คนไข้ก็จะชื่นชม มารับการรักษา คงไม่มีคุณหมอคนไหนโง่พอครับที่จะไปคิดอะไรที่ไม่ค่อยฉลาด เลือกที่จะรักษาช้าๆ ให้คนไข้หายช้าๆ
แต่สิ่งหนึ่งที่คนไข้ต้องเข้าใจว่า หมอไม่ใช่พระเจ้าไม่สามารถเอาชนะธรรมชาติได้ เราได้แค่ฝืนซ่อมแซมบ้าง สุดท้ายแล้วทุกคนก็หนีไม่พ้น เกิด แก่ เจ็บ ตาย
คนที่พยายามคิดดี ทำดี ไม่ทำร้ายผู้อื่นทั้งกาย วาจา ใจ ทำประโยชน์เพื่อผู้อื่นบ้างในช่วงที่เกิดมา หมอคิดว่าแค่นี้ก็ใช้ ชีวิตที่มีอยู่ให้สวยงาม แล้วล่ะ