เครื่องไอออนโต

ระบุคำค้นหา

เครื่องไอออนโต

เครื่อง "ไอออนโต" ในโฆษณาที่อวดอ้างสรรพคุณว่า เมื่อใช้ร่วมกับการทาครีมแล้วช่วยให้เนื้อครีมที่ทาซึมลงผิวหน้าได้ดีกว่าการทาครีมด้วยนิ้วมืออย่างเดียว เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในการทาครีม อยากเรียนถามคุณหมอว่าจริงหรือปล่าวคะ

คำถามที่:Q8050| จากคุณm_p11| 12/07/2547 16:19 น.

เครื่องไอออนโต (Iontophoresis) เป็นการใช้กระแสไฟฟ้าผลักยาหรือสารละลายให้ซึมลงสู่ผิวหนัง โดยกระแสไฟฟ้าจะทำให้ยาแตกตัวเป็นประจุ ผลักยาที่มีประจุตรงข้าม และเหนี่ยวนำให้โมเลกุลยาซึมผ่านผิวหนัง (electrorepulsive effect)

ปัจจัยที่มีผลต่อการซึมผ่านของยา ได้แก่

1. ความเข้มข้นของยา

2. ความคงตัวของยาและการแตกตัวเป็นประจุ (ionization)

3. คุณสมบัติของยา : ยาที่ละลายในไขมัน และโมเลกุลใหญ่จะซึมผ่านไม่ดี

4. กระแสไฟฟ้า : กระแสตรงจะดีกว่ากระแสสลับ

5. สภาพผิวของคนไข้ : ผิวปกติที่ไม่มีรอยโรค (intact stratum corneum) ยาจะซึมผ่านดีกว่า

ข้อห้ามใช้ (contraindication)

1. ผู้ป่วยที่ใส่เครื่องมือซึ่งไวกับกระแสไฟฟ้า เช่น ใส่เครื่องช่วยการเต้นของหัวใจ (pace maker) , เหล็กดามกระดูก (bone fixator)

2. ผิวหนังที่มีการอักเสบหรือมีแผลเปิด

3. เลี่ยงบริเวณขมับหรือรอบตา เนื่องจากอาจกระตุ้นอาการชักในคนไข้ลมชัก หรือรบกวนการมองเห็น

ผลข้างเคียง

1. รู้สึกไม่สบายผิว , มีอาการแดงจากหลอดเลือดขยาย (local vasodilatation)

2. ผิวแห้งขึ้นเนื่องจากมีการระเหยของน้ำจากผิวเพิ่มขึ้น

ข้อดี

1. ช่วยให้ยาซึมผ่านผิวได้รวดเร็วกว่าการทายา

2. ลดปริมาณยาที่ใช้ลง

ข้อเสีย

1. รู้สึกไม่สบายผิว, ระคายเคืองผิว, ผิวแห้ง

2. ผิวหนังบริเวณที่จะทำต้องไม่มีรอยโรค

3. อาจต้องใช้เวลานานกว่ายาฉีด

4. ค่าใช้จ่ายสูง

ข้อบ่งใช้ในทางผิวหนัง

1. ภาวะที่มีเหงื่อออกมาก (Hyperhydrosis) การทำไออนโตยับยั้งการหลั่งเหงื่อได้ 40-97% โดยใช้เครื่องไอออนโตกับน้ำประปา

2. ลดอาการปวดก่อนทำหัตถการ โดยใช้เครื่องไอออนโตกับยาชา เช่น ลิโดเคน (lidocaine) ทำให้ยาชาซึมเร็วขึ้น

3. รักษารอยแผลเป็นจากสิว โดยใช้เครื่องไอออนโตกับยาซึ่งเป็นอนุพันธ์ของวิตามินเอ (tretinoin)

4. รักษาฝ้า โดยใช้เครื่องไอออนโตกับวิตามินซี (VC-PMG)

สรุป เครื่องไอออนโตเป็นอุปกรณ์ซึ่งใช้กระแสไฟฟ้าในการผลักยาที่มีประจุลงสู่ผิวหนัง แต่ประสิทธิภาพในการรักษาขึ้นกับการเลือกใช้ยาที่เหมาะสมกับคนไข้ในแต่ละราย เพราะหากใช้ไม่ถูกต้องอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงและสิ้นเปลืองโดยเปล่าประโยชน์ค่ะ

ตอบโดย:พญ. กัลยา สินกิจเจริญชัย| วันที่ 21/07/2547

จาก: 0 คน

VIEWS

4933

ส่งคำถามของคุณได้ที่นี่