มีเนื้อหาที่น่าสนใจจะปรึกษาหมอ
เนื้อหา.... ข่าวร้ายสำหรับผู้เป็นสิวรุนแรงค่ะ ผู้เชี่ยวชาญพบว่าเชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดสิวรุนแรงนั้น เกิดการดื้อยาปฎิชีวนะที่ใช้ในการรักษาสิวค่ะ ?!?!

วิธีการรักษาสิวในเบื้องต้นที่ทราบกันก็คือ การใช้โลชั่นที่มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อหรือสลายหัวสิว และใช้กรดวิตามินเอทาสิว และหากเป็นสิวเรื้อรังและรุนแรง แพทย์ผิวหนังก็จะให้ยาปฎิชีวนะรับประทานร่วมด้วยเพื่อควบคุมสิว ซึ่งบางครั้งก็ต้องรับประทานเป็นเวลายาวนานเลยทีเดียวค่ะ

Dr. Carl Erik Nord จากสถาบัน Karolinska ในกรุงสต็อกโฮม ประเทศ สวีเดน รายงานว่ามีการดื้อยาปฎิชีวนะเกิดขึ้นแล้วกับเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุให้เกิดสิวค่ะ ข่าวร้ายจริงๆ แต่ยังไม่หมดหวังเสียทีเดียวค่ะ

Dr. Nord ได้ทำการศึกษาการใช้ยาปฎิชีวนะ 2 ชนิดที่นิยมใช้กันทั่วไป คือ ยา Erythromycin และ ยา Tetracycline โดยทำการเพาะเชื้อจากผิวหน้าของผู้ที่เป็นสิวรุนแรงที่กำลังรักษาด้วยยาข้างต้นมาเป็นระยะเวลา 2-6 เดือน เปรียบเทียบกับผู้เป็นสิวรุนแรงเช่นกัน แต่ไม่เคยได้รับการรักษาด้วยยาปฎิชีวนะมาก่อน พบว่ากลุ่มที่กำลังรักษาด้วยยาปฎิชีวนะมีการดื้อยาเกิดขึ้นค่ะ

จากการศึกษาชิ้นนี้ Dr. Nord จึงแนะนำว่า แพทย์ผิวหนังควรจะต้องระมัดระวังและประเมินผู้เป็นสิวให้ดีว่า จะเกิดการดื้อยาหรือไม่ ซึ่งทั้งนี้ตัวผู้เป็นสิวเองก็ควรจะสังเกตอาการของตนเองด้วยนะคะ หากว่าคุณได้รับยาปฎิชีวนะมาเป็นเวลาแรมเดือนแล้ว สิวเจ้ากรรมก็ยังไม่ยุบเสียที ก็ป่วยการที่จะใช้ยาเดิมต่อไปค่ะ แพทย์ผิวหนังควรจะเปลี่ยนยาปฎิชีวนะชนิดอื่นมาใช้แทนได้แล้วค่ะ ไม่ควรใช้ยาเดิมต่อไปเนื่องจากยาที่ว่านี้มีผลข้างเคียงต่อผู้ใช้ด้วยค่ะ

นอกจากนี้ Dr. Nord ได้แจ้งข่าวดีให้ทราบว่า ขณะนี้กำลังจะมีวัคซีนผลิตขึ้นมา เพื่อใช้สำหรับรักษาสิวกันแล้วในอนาคตอันใกล้นี้ค่ะ และคาดว่าวัคซีนจะเป็นวิธีการรักษาสิวที่ได้ผลดีมาก สำหรับคนนับล้านๆ ที่กำลังกลุ้มอกกลุ้มใจกับปัญหาสิวของตนเองอยู่ค่ะ

ถาม: ถ้าที่ Dr. กล่าวมาเป็นความจริง อย่างนี้ที่รักษาอยู่ก็ไม่ได้ผลสิครับ แล้วเรื่องวัคซีนถ้ามีจริงที่ราชเทวีจะนำมารักษาคนไข้ไหมครับ กรุณาตอบด้วยนะครับ

คำถามที่:Q8002| จากคุณlinpark| 05/08/2546 22:48 น.
การดื้อยาปฏิชีวนะที่ใช้ในการรักษาสิว สามารถเกิดขึ้นได้เหมือนๆ กับการดื้อยาปฏิชีวนะที่ใช้ในการรักษาโรคติดเชื้อทั่วๆ ไปค่ะ เช่น คออักเสบ ปอดบวม แผลติดเชื้อ ฯลฯ โดยการที่บุคคลคนนั้นจะดื้อยาปฏิชีวนะหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยดังนี้
- การรับประทานยาอย่างสม่ำเสมอ ตามคำแนะนำของแพทย์หรือไม่
- ยาปฏิชีวนะที่ใช้ในการรักษา สามารถฆ่าเชื้อที่ก่อให้เกิดโรคนั้นได้หรือไม่ (การใช้ยาให้ตรงกับเชื้อที่ก่อให้เกิดโรค) การเลือกใช้ยาที่เหมาะสมกับระดับความรุนแรงของโรค เป็นต้น ซึ่งตัวยาปฏิชีวนะที่ใช้ในการรักษาสิวก็มีอยู่หลายกลุ่ม โดยถ้าหากมีการดื้อยาตัวใดเกิดขึ้น ก็สามารถปรับเปลี่ยนมาใช้ยากลุ่มอื่นแทนได้ ซึ่งก็ให้ผลในการรักษาสิวได้เช่นกัน ดังนั้น ขอแนะนำให้ไปปรึกษาแพทย์ จะเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการรักษาสิว เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดภาวะการดื้อยาปฏิชีวนะเกิดขึ้นค่ะ

ส่วนในเรื่องของวัคซีนรักษาสิวนั้น ยังไม่สามารถบอกได้ว่าทางราชเทวีจะนำมาใช้หรือไม่ เพราะต้องขอศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับข้อดีข้อเสียของวัคซีนชนิดนั้น ผลข้างเคียง และผลกระทบต่อวัคซีนอื่นๆ เพื่อความปลอดภัยสูงสุดในการรักษาค่ะ

ตอบโดย:พญ. ดวงพร บรรณเภสัช| วันที่ 08/08/2546

จาก: 0 คน
VIEWS
2386