เลยไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลแพทย์ทำการรักษาโดยฉีดยา Kenacorte-A 10 mg per ml ให้ แล้วให้ทายา Topicorte Cream และ Dermo Shampoo ก่อนฉีดยาบริเวณผมที่ร่วงไปจะผิวออกส้มๆ แต่หลังฉีดแล้วสีผิวหนังกลับสู่สภาพปกติเหมือนๆ กับบริเวณอื่นที่ไม่ได้เป็น

ผมไม่เคยผมร่วงแบบนี้มาก่อน ปกติสุขภาพผมดีมาก ไม่มีปัญหาเรื่องผมร่วงหรือปัญหาเส้นผมมาก่อนเลย ปกติจะผมดกและหนาปานกลาง ไม่มีโรคประจำตัว อายุ 32 อยากเรียนถามคุณหมอดังนี้

1. การทายา Topicorte Cream บริเวณที่ผมร่วงเป็นหย่อม เป็นเวลาติดต่อกันนานๆ จะมีผมเสียอะไรต่อบริเวณนั้นบ้าง เพราะหมอที่ไปหาให้ทายาเป็นเวลา 3 อาทิตย์ เช้าและก่อนนอน จากนั้นถึงให้ไปตรวจใหม่

2. การฉีดยา Kenacorte-A หรือยาตัวอื่นซ้ำหลัง 3 อาทิตย์ มีผลเสีย หรือเสี่ยงอย่างไรบ้าง ควรฉีดห่างกันนานเท่าไหร่

3. การกินยาในกลุ่มที่เรียกว่า Finasteride (Propecia) จำเป็นหรือไม่ครับ ต้องทานนานกี่เดือน แล้วมีผลข้างเคียงบ้างมั๊ย เวลาหยุดยาแล้วจะทำให้เกิดผมร่วงตามมาบ้างมั๊ย เพราะคิดว่าร่างกายน่าจะปรับสมดุลเรื่องฮอร์โมน

4. ยา Minoxidil แบบสเปรย์ ของ Nu-Hair หรือยี่ห้ออื่น ถ้าใช้พ่นบริเวณที่เป็น แทนการรักษาแบบกินยา มีผลเสียอย่างไรบ้างครับ ควรใช้มั๊ย

คือ ผมได้ถามเพื่อนที่เคยเป็นเค้าไปรักษาอีกโรงพยาบบาลหนึ่ง หมอฉีดยาให้เหมือนกันเข้าใจว่าเป็นยาประเภทเดียวกับ Kenacorte-A และให้ Minoxidil แบบสเปรย์ ของ Nu-Hair มาพ่นบริเวณที่เป็น ประมาณ 2 อาทิตย์ ผมจะขึ้นเป็นเส้นบางอ่อนๆ หลังจากนั้นประมาณ 2 เดือน ผมก็กลับเข้าสู่สภาวะปกติ ในกรณีของผมที่เป็นครั้งแรกแม่เคยมีปัญหาเรื่องผมร่วง ผมบาง รักษาแบบเพื่อนจะโอเคมั๊ย เพราะเค้าก็เพิ่งเป็นครั้งแรกเหมือนกัน

คือ จริงๆ หมอที่ผมไปรักษาสิวประจำบอกว่า ถ้าให้เค้ารักษาจะไม่ฉีดยา หรือ ทายา แต่จะให้กินยา ซึ่งมีผลเฉพาะผม ไม่ใช่ขนตามร่างกาย แต่ผมไม่อยากกินยา เพราะไม่รู้ว่ามันจะมีผลข้างเคียงมากน้อยขนาดไหน ตอนนี้ผมทำเลเซอร์กำจัดเคราอยู่ด้วย ซึ่งไม่แน่ใจว่ายากินจะมีผลทำให้ขนบริเวณเคราจะดกขึ้นมาอีกเหรอเปล่า

อยากให้คุณหมอแนะนำหน่อยว่า Topicorte Cream กับ Minoxidil แบบสเปรย์ (ไม่ใช่ทา) ตัวไหนให้ผลดีกว่ากัน และอันตรายน้อยกว่า ขอบคุณครับ