โฟมล้างหน้า
ผมเป็นคนผิวมัน มักจะเป็นสิวบริเวณแก้มเสมอ ผมเคยอ่านในโบรชัวร์ต่างๆ เห็นคุณเภสัชกรแนะนำว่าโฟมล้างหน้าที่ดีที่สุดสำหรับผิวหน้า คือ โฟมแบบไม่มีฟอง เพราะจะไม่ก่อให้เกิดสิวด้วย

แต่ผมเป็นคนผิวมันแล้วทาครีมกันแดดด้วยในตอนกลางวัน ถ้าจะใช้โฟมล้างหน้าประเภทนี้มันจะทำความสะอาดได้หมดจดหรือเปล่า ผมกลัวว่าครีมกันแดดที่ผมใช้หรือไม่ว่าจะเป็นแป้งพัพฟ์กันแดดที่ผมใช้จะยังตกค้างอยู่บนหน้า แล้วก่อให้เกิดสิวได้อีกครับ ขอเรียนถามเป็นข้อๆ เลยนะครับ

1.ผมเป็นคนผิวมันแต่ทำไมมีรูขุมขนละเอียดเล็กครับ แล้วทำไมชอบมีสิวขึ้นเฉพาะที่แก้มเท่านั้น ผมรำคาญมากครับ
2. ผมจะใช้โฟมล้างหน้าแบบมีฟองหรือไม่มีฟองดีครับ แต่เท่าที่ผมสำรวจตลาด โฟมมีฟองและโฟมไม่มีฟองก็มีคำว่า non-comedonegenic เหมือนกัน คือ ไม่ก่อให้เกิดสิวครับ ผมควรเลือกแบบไหนดีครับ
3. ผมอ่านในผลิตภัณฑ์ล้างหน้าเค้าบอกว่ามี Ph-Balance ผมอยากทราบว่ามี Ph เท่าไหร่ครับ เพราะที่ผิวมี Ph 4.5 - 5.5 ครับ
4. ผมทราบมาว่าสาร Sodium Lauryl Sulfate ก่อให้เกิดสิวได้แล้วสาร Sodium Laureth Sulfate คืออะไร ทำไมชื่อมันคล้ายกัน แล้วก่อให้เกิดสิวหรือไม่ครับ
5. ผมอยากให้คุณหมอช่วยเลือกโฟมล้างหน้าให้หน่อยครับ ตามสรรพคุณที่ผมบอกไปนะครับ มี 2 ตัวครับ ผมมีผิวหน้ามันเป็นสิวง่าย (เฉพาะที่แก้ม)
- แบบที่(1) สรรพคุณดังนี้ ...โฟมมีฟองแบบ non-ionic & anionic รวมกัน non-comedogenic , hypoallergenic , ph 5.5 , soap-free มีส่วนผสมของ Lactic-acid กรดน้ำนมธรรมชาติครับ
- แบบที่ (2) สรรพคุณดังนี้ครับ...โฟมไม่มีฟอง non-ionic แท้ 100% , non-comedogenic , hypoallergenic , ph balance , soap-free มีส่วนผสมของสารบำรุงผิวมากกว่า 50% ครับ

คุณหมอช่วยเลือกหน่อยนะครับ ผมสับสน ผมกะว่าถ้าเลือกได้จะใช้ตัวนี้ตัวเดียวตลอดไปเลยครับ ผมไม่เอ่ยยี่ห้อนะครับ คุณหมอช่วยเลือกด้วยนะครับ

คำถามที่:Q7060| จากคุณarm_song| 30/09/2547 19:46 น.
1. ผิวมันแบ่งได้เป็น ผิวมันเฉพาะบริเวณ T- ZONE , ผิวมันเล็กน้อย , ปานกลางถึงระดับมาก และผิวมันเนื่องจากโรคผิวหนังบางชนิด แล้วแต่ว่าผิวคุณจะมันระดับไหน ซึ่งจะทำให้รูขุมขนกว้างมากน้อยต่างกันค่ะ สิวขึ้นที่แก้มไม่ได้มีสาเหตุหลักที่ผิวมัน แต่เกิดจากสาเหตุต่างๆ เช่น การแพ้ครีม เครื่องสำอาง การรบกวนผิวหน้าบ่อยๆ อดนอนและเครียด เป็นต้น

2. ควรเลือกเป็นโฟมล้างหน้าแบบไม่มีฟอง ซึ่งจะก่อให้เกิดการระคายเคืองผิวหน้าน้อยกว่าค่ะ

3. ต้องดูว่ามีค่า Ph บอกในผลิตภัณฑ์หรือเปล่า ถ้าคำว่า Ph balance ส่วนใหญ่จะหมายถึง balance กับผิวหน้านั่นแหละค่ะ (Ph 4.5-5.5)

4. ทั้ง 2 ชนิดต่างก็เป็น surfactant ในกลุ่มเดียวกัน Sodium laureth sulfate ก่อให้เกิดการแห้ง - ระคายเคืองน้อยกว่า Sodium lauryl sulfate แต่มีคราบติดเสื้อผ้าและละลายน้ำไม่ดีเท่า Sodium lauryl sulfate สารทั้งสองชนิดนี้ก่อให้เกิดการระคายเคืองที่ผิวหนังค่ะ

5. ขอเลือกแบบที่ดีที่สุด คือ น้ำสะอาดธรรมดา รองลงมา คือ แบบที่ 2 ค่ะ

ตอบโดย:ราชเทวีคลินิก| วันที่ 04/10/2547

จาก: 0 คน
VIEWS
7767