ริมฝีปากและรอบๆ ปากแดง แห้ง ลอก
มีอาการริมฝีปากและรอบๆ ปากแดง แห้ง ลอก ไปรักษารพ.หยุดใช้ลิปสติก และหยุดใช้เครื่องสำอางบำรุงผิว ต้องทานยาแก้แพ้ประมาณ 5 วัน อาการจึงจะหายไป แล้วกลับมาใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่มี Aloie Vit C Vit E เป็นส่วนผสม (ใช้ยี่ห้อสกาแคร์ ซี แอน อี ซึ่งเคยใช้มานานหลายปี) ริมฝีปากและรอบๆ ปาก จะมีอาการแดง แห้ง ลอก คันเล็กน้อยมาอีก หยุดใช้อาการหายไป

ใช้มอยส์เจอร์ของ Smoote E สีเขียว มาใช้ก็มีอาการอีก หยุดใช้ดีขึ้น ซื้อบำรุงผิวไนท์ครีมของ Loreal มาใช้มีอาการอีก

อยากไปหาแพทย์ผิวหนังมากแต่ก็ไกลมากจากที่ทำงาน ต้องเดินทางครึ่งค่อนวัน ตอนนี้ซื้อ แพน เมลาสม่า พี โค้ด บล็อค มาใช้ ริมฝีปากและรอบๆ ปากจะมีอาการ แดง แห้ง ลอก คันเล็กน้อยมาอีก จนไม่ทราบว่าแพ้สารตัวไหนกัน

ไปหาแพทย์รพ.บอกเป็นภาวะผิวแห้ง ให้ยาแก้แพ้ ยาทา และให้เปลี่ยนยาสีฟันก็เปลี่ยนแล้ว ลิปสติกไม่ได้ใช้มานาน 3 เดือนแล้ว แต่ใช้วาสลีนอยู่ ช่วงนี้อากาศก็ร้อนมาก ถ้าไม่ทาครีมบำรุงเลยใบหน้าก็หมองคล้ำ ดิฉันควรใช้ครีมบำรุงตัวไหนดีคะ

คำถามที่:Q6280| จากคุณaomsin_wong| 21/04/2553 21:05 น.
เมื่อมีการอักเสบเกิดขึ้นจากการแพ้ แม้จะหยุดใช้สิ่งที่แพ้แล้วการอักเสบก็จะยังคงดำเนินต่อไประยะหนึ่ง ซึ่งต้องอาศัยการรักษาค่ะ ผิวหนังบริเวณริมฝีปากจึงจะกลับมาเป็นปกติ ซึ่งการรักษาควรจะประกอบด้วย steroid ชนิดทาด้วย แนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อเลือกชนิดของ steroid ได้อย่างเหมาะสมกับรอยโรคที่เป็น

จากประวัติที่เล่ามาน่าจะไวต่อครีมที่มีส่วนผสมของ Vit E นะคะ หรือครีมที่มีส่วนผสมของสารที่ให้ความขาว จึงต้องควรระมัดระวังในการเลือกซื้อ

สำหรับครีมบำรุงถือว่าเป็นสิ่งที่จำเป็นในการบำรุงผิวที่คนทั่วไปควรใช้เป็นประจำค่ะ ใช้ยี่ห้อใดก็ได้ที่ไม้แพ้ วิธีทดสอบว่าแพ้หรือไม่ ควรซื้อกระปุกเล็กมาก่อน ทดลองทาบริเวณท้องแขนด้านใน เป็นเวลา 2 สัปดาห์ หากไม่แพ้ก็สามารถใช้ได้กับใบหน้าค่ะ

ตอบโดย:ราชเทวีคลินิก| วันที่ 10/05/2553

จาก: 3 คน
VIEWS
53963