วิธีการรักษาสิวของคลินิก
เมื่อสัปดาห์ก่อนได้ไปรักษาสิวอักเสบ 1 เม็ดที่ข้างจมูก แต่เนื่องจากที่หน้าผากและใต้คิ้วจะมีสิวอุดตันอยู่ แต่ถ้าไม่สังเกตุดีดีจะมองไม่เห็น จึงลองปรึกษาหมอ หมอจึงเอาไม้จิ้มฟันจิ้มยาและมากดที่สิวอุดตันต่างๆๆ ทั่วใบหน้า จากตอนแรกที่มีสิวเห็นชัดเพียงเม็ดเดียว แต่ตอนนี้พบสิวและรอยแผลเป็นเต็มทั่วใบหน้า ทำให้ลำบากใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากการทำงานของดิฉันต้องพบปะผู้คนอยู่ตลอดเวลา แต่ ณ ตอนนี้ไม่อยากออกไปไหน ออกไปก็มีแต่ผู้คนทักว่าไปทำอะไรมา หน้าเยินมาก

จากที่เดิมเป็นแค่สิวอุดตันมองไม่เห็น ตอนนี้กลายเป็นสะเก็ดดำ บางอันก็นูนแดงอักเสบ จึงอยากทราบวิธีการรักษาว่ารักษาให้คนไข้หายจากสิว หรือจะรักษาให้เป็นสิวเป็นแผลเป็น

ถ้าคุณหมอจะบอกว่าจะเป็นแค่ช่วงแรก หลังจากตกสะเก็ดแล้วหาย ข้อนี้ดิฉันรับคำตอบนี้ไม่ได้จริงๆๆ เนื่องจาก 1 อาทิตย์ที่ผ่านมานี้ฉันใช้ชีวิตอย่างลำบากมาก ไม่อยากไปทำงาน อย่างกรณีนี้ทางคลีนิกจะรับผิดชอบเรื่องนี้อย่างไรบ้างเนื่องจากเป็นคลินิกที่ค่อนข้างมีชื่อเสียง หวังว่าคงไห้คำตอบและรับผิดชอบเรื่องที่เกิดขึ้นได้

และนี่ถ้าสะเก็ดแผลหลุดแล้ว ดิฉันคงต้องรักษารอยแผลเป็นอีกใช่ไหมคะ แล้วอีกนานเท่าไหร่ถึงจะหาย ฉันต้องทนไปอย่างนี้อีกนานเท่าไหร่คะ

คำถามที่:Q3951| จากคุณakisakura| 27/02/2551 11:01 น.
เรียน คุณข้องใจเจ้าค่ะ

ทางบริษัทเข้าใจความรู้สึกหงุดหงิดของคุณครับ เพราะในบางครั้งความคาดหวังผลของการรักษาอาจไม่ตรงใจกับผู้มารับบริการ

โดยปกติการรักษาสิวมาตรฐาน คือ ประเมินความรุนแรงของอาการ ถ้าอาการเป็นไม่รุนแรงมาก การรักษาก็ประกอบไปด้วยการทายา แต้มยา หรือกดสิว ส่วนในกรณีที่อาการรุนแรงมากขึ้น ก็จะใช้ยารับประทาน หรือฉีดสิว หรือใช้เลเซอร์ช่วย ซึ่งแนวทางการรักษาของราชเทวีคลินิกเรา ท่านประธานสถาบันย้ำให้แพทย์ทุกคนรักษาคนไข้ หรือผู้มารับบริการ เปรียบเสมือนรักษาพ่อแม่ พี่น้องของตัวเอง ดังนั้นหมอไม่คิดว่าจะมีความคิดที่จะทำให้คนไข้ที่เป็นสิวต้องทนทุกข์ทรมานกับรอยแผลสิวหลังหาย (ซึ่งจะเป็นความตั้งใจของหมอทุกท่านด้วยซ้ำ ที่อยากให้คนไข้หายเร็วที่สุด และดีที่สุด คงไม่มีใครอยากเสียชื่อเสียง)

และการรักษาคนไข้แต่ละราย เราจะคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของคนไข้ หรือผู้มารับบริการ ไม่ใช่ประโยชน์ของผู้ให้บริการ เป็นที่ตั้ง ดังนั้น การรักษาที่ให้จึงอยู่บนพื้นฐาน “ หายเร็วที่สุด ดีที่สุด โดยที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายมากมายเกินจำเป็น และมีผลข้างเคียงน้อยสุด ”

การแต้มยา TCA เป็นวิธีปกติที่ใช้ในทางการแพทย์ เพื่อแต้มให้สิวอุดตันแห้ง แล้วหลุดออกไป ข้อดี คือ ไม่ได้สิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายมากมาย เสริมไปกับการทายา ทำให้สิวหลุดเร็วขึ้น ข้อเสียอาจต้องมีสะเก็ดดำๆ น้ำตาล บริเวณที่แต้มอยู่ ประมาณ 5-7 วัน ระหว่างนี้ต้องพยายามล้างหน้า เช็ดหน้าเบาๆ เพื่อให้สะเก็ดค่อยๆ หลุด ก็จะไม่ค่อยเป็นรอยแผล แต่ถ้ามีการแกะ หรือเช็ดถูแรง สะเก็ดหลุดเร็ว ทำให้มีรอยแดงๆ อยู่สักระยะ นานกว่าปกติแต่ในที่สุดก็จะหาย ดังนั้นเพื่อไม่ให้เป็นอย่างหลังต้องพยายามให้สะเก็ดค่อยๆ หลุด ข้อดีอีกอย่างของวิธีนี้ คือ ทำให้รอยหลุมตื้นขึ้น แต่ถ้าคนไข้ไม่อยากมีสะเก็ดอยู่บนใบหน้า ก็อาจเปลี่ยนไปใช้วิธีอื่น

การกดสิวเราจะกดในกรณีสิวอุดตันที่หัวเปิด ถ้าหัวปิดเราจะเลี่ยงการการกด ไปใช้วิธีการแต้มยาแทนเพื่อจะได้ไม่เกิดการอักเสบ

การฉีดสิวด้วยยา Steroid เราใช้ในกรณีที่สิวบวมอักเสบมากๆ แต่ไม่ใช้ในกรณีสิวอุดตัน ข้อดี คือ สิวยุบเร็ว ข้อเสียอาจมีโอกาสเกิดรอยแผลเป็นขึ้นในระยะยาวจากยาที่ฉีด และต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น

เลเซอร์ ก็เอามาใช้รักษารอยแผลจากสิว และทำให้สิวอักเสบยุบเร็วขึ้น ข้อดีไม่ต้องมีแผลตกสะเก็ด รอยหายไวขึ้น ยุบเร็วขึ้น แต่จะต้องเสียค่าใช้จ่ายที่แพงมากขึ้น

จากที่อธิบายวิธีการรักษาข้างต้น ทางบริษัท ราชเทวีคลินิก มีความมุ่งมั่นที่จะให้บริการแก่คนไข้ผู้มารับบริการอย่างดีที่สุดเสมอมา ถ้าขั้นตอนใดของการรักษาของแพทย์ ของบริษัทผิดไปจากความคาดหวังของ “คุณข้องใจเจ้าค่ะ” บริษัทก็อยากเรียนว่า แพทย์และเจ้าหน้าที่ทุกคนพยามยามที่จะดูแลคนไข้ ผู้รับบริการทุกคนอย่างเต็มความสามารถ

ทางบริษัท แพทย์ และเจ้าหน้าที่ราชเทวีคลินิก ทุกคนหวังใจว่า “คุณข้องใจเจ้าค่ะ” จะเข้าใจและให้โอกาสพวกเราได้ให้บริการรับใช้ในโอกาสต่อไป ขอบคุณครับ

ตอบโดย:นพ. ไพบูลย์ ประภาศิริกุล| วันที่ 05/03/2551

จาก: 0 คน
VIEWS
10284