ทานยารักษาสิวได้ไหม
ตอนนี้อยู่ในช่วงการปรับตัวเข้าสู่วัยรุ่นครับ อายุ 14 ปี มีปัญหาสิวอุดตันที่บริเวณหน้าผาก หากนับทั้งหมดบนใบหน้ามีประมาณ 10-20 เม็ดครับ แต่ผมมีความต้องการที่จะทานยาในกลุ่มวิตามิน เอ เพื่อการป้องกันและรักษาครับ แต่ผลข้างเคียงจะเยอะหรือไม่ หากใช้ยาครบกำหนดแล้วหยุดใช้จะเกิดสิวอีกไหมครับ

ปล. ตอนนี้ใช้ยาละลายหัวสิวที่หมอให้มาอยู่ครับ คาดว่าอีกสองอาทิตย์คงจะไปกดออกได้ (อ้อ..อีกคำถามละกัน การกดสิวนั้นมีความเจ็บปวดไหมครับ หรือทำแล้วจะเป็นหลุมและใช้เวลาในการรักษานานไหม)

ยาที่ใช้อยู่ก็มี

1. sebex+
2. Cm solution
3. NSF LP
4. Aloe Jo
คำถามที่:Q3614| จากคุณbunbun191| 09/12/2550 20:47 น.
การกดสิว เราจะใช้เครื่องมือกดสิวที่เรียกว่า comedone extractor ค่อยกด เพื่อดันให้หัวสิวอุดตันโผล่ออกมาแล้วหลุดออกไป ส่วนมากจะกดสิวหัวดำ หรือสิวอุดตันที่ปากรูขุมขนเปิดออกมาแล้ว ไม่กดสิวอักเสบที่เป็นตุ่มแดงหรือตุ่มหนอง เพราะจะทำให้แตกและการอักเสบกระจายกว้างขึ้น เวลากดอาจจะเจ็บเล็กน้อย (พอทนได้) แต่ไม่ทำให้เกิดแผลเป็นครับ
ตอบโดย:นพ. ชลิต พงษ์สมบูรณ์| วันที่ 10/12/2550
เรื่องการกดสิว ปกติแล้วการกดสิวเป็นเพียงการรักษาเสริม เพื่อให้สิ่งอุดตัน (Comedone) หลุดออกมาเร็วขึ้น ดังนั้นจะกดเฉพาะสิวที่ไม่อักเสบและเป็นสิวหัวเปิด (Open Comedone) โดยใช้เครื่องมือกดสิวที่สะอาดผ่านการฆ่าเชื้อโรคแล้ว การกดสิวจะไม่ทำให้สิวอักเสบหรือช้ำ ถ้าหากกดถูกวิธีครับ

แพทย์แต่ละท่านจะพิจารณากดสิวให้กับคนไข้เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม ซึ่งโดยส่วนใหญ่ ประมาณ 2 สัปดาห์ขึ้นไปหลังจากที่คนไข้ได้ใช้ยาละลายสิวอุดตัน (Close Comedone) แล้วครับ

ตอบโดย:นพ. มนตรี พงศ์พจน์เกษม| วันที่ 10/12/2550
การรักษาสิวอุดตันนั้นควรใช้การทายาที่เหมาะสมร่วมกับการใช้เลเซอร์กำจัดสิวอุดตัน อาจทานยากลุ่มวิตามิน เอ ร่วมด้วย โดยขึ้นกับการพิจารณาของแพทย์ ทางที่ดีคุณ Bunbun191 ควรปรึกษาแพทย์ประจำที่ดูแลคุณอีกครั้ง แล้วรักษาอย่างต่อเนื่องจริงจังน่าจะได้ผลดีนะครับ
ตอบโดย:นพ. ธีรศักดิ์ ไชยพัฒนะพฤกษ์| วันที่ 10/12/2550
ยากรดวิตามินมีทั้งยากินและยาทา แต่ที่คุณถามมาน่าจะเป็นตัว Roaccutane ซึ่งเป็นยากิน ขนาดยามี 10 และ 20 mg. ทุกครั้งที่แพทย์ให้ยาจะต้องอธิบายฤทธิ์ของยา ความแรงของยาขึ้นกับปริมาณยาที่ทานเข้าไป ถ้าขนาดยาที่ทานสูง ผลข้างเคียงก็มากตามไปด้วย ยามีฤทธิ์ไปกดต่อมไขมันทั่วร่างกาย ดังนั้นผลข้างเคียงที่พบบ่อยคือ ริมฝีปากแห้ง ปากแห้ง ผิวหนังแห้ง เยื่อบุจมูกแห้ง ตาแห้ง สามารถใช้วาสลินหรือขี้ผึ้งทาเพื่อบรรเทา ใช้ครีมบำรุงทาผิวได้ ใช้น้ำตาเทียม บางรายอาจมีใบหน้าแดงกว่าปกติใน 1-2 สัปดาห์แรก ซึ่งทุเลาหายได้เอง บางรายอาจมีผิวไวแสงแดดกว่าปกติ ให้เลี่ยงแดดจัดและทาครีมกันแดด ส่วนผลข้างเคียงอื่นมีบ้างแต่พบน้อยรายมาก หากมีอาการควรกลับไปพบแพทย์ผู้รักษาค่ะ ที่สำคัญการใช้ยานี้ควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ค่ะ

ส่วนเรื่องการกดสิว คุณควรใช้ยาละลายสิวก่อนล้างหน้าประมาณ 2 สัปดาห์ แล้วมากดสิวออก ถ้าเป็นสิวหัวเปิดจะกดออกได้เลย ถ้าเป็นสิวหัวปิดอาจใช้วิธีเจาะสิวโดยใช้ LASER หรือใช้เข็มเจาะ ส่วนการป้องกันจะใช้กรดวิตามินเอ ซึ่งทำลายต่อมไขมัน ต้องกินเป็นเวลานานจึงมีโอกาสหายค่ะ ลองปรึกษาคุณหมอดูนะคะ

ตอบโดย:พญ. ยุพาพร คล้อยตามวงศ์| วันที่ 10/12/2550

จาก: 0 คน
VIEWS
3969