เป็นสิวมาประมาณ 3 ปี
ผมเป็นสิวผด และสิวอักเสบมาประมาณ 3 ปีได้แล้วครับ มารักษากับแพทย์ที่หนึ่ง ตอนปีที่ 3 เนี่ยครับ รักษาตอนช่วงสงกรานต์ปีนี้มาจนถึงเดือนพฤษภา แพทย์ได้ให้ยามาทั้งยาทา ยากิน ครับ

ยาทาจะเป็๋นตัวยาของเขาเลย ส่วนยากินจะมี Proacne 10 กับ ยาเม็ดกลมสีขาวอีก 2 ชนิด (จำชื่อไม่ได้) ทานมาได้ 1 เดือน บวกกับเปลี่ยนตัวยาที่ทามา2 ครั้ง ตอนนี้สิวก็ยังไม่หายครับ แต่มีสิวผดเห่อขึ้นมากกว่าเดิม และยาที่ทาที่เป็นเจลสีเหลืองก็ทำให้แสบหน้า แต่สัก10 นาทีก็หายไป ตอนนี้หน้าเริ่มแดงนิดๆ เลยหยุดใช้ ตอนนี้หน้ายังเหมือนเดิม และมีรอยแดงๆ ที่เกิดจากสิวตั้งกะต้นเดือนเมษายนมาแล้ว ยังไม่จางลงเลยครับ ผมควรทำยังไงดีครับ

ปล. ผมอายุ 17 ปีครับ เป็นสิวมาตั้งแต่อายุ 15 มาช่วง 17 นี่เป็นหนักครับ

คำถามที่:Q2765| จากคุณFire| 08/05/2550 09:07 น.
สาเหตุของการเกิดสิวมีหลายสาเหตุ ทั้งปัจจัยภายใน เช่น ฮอร์โมน และปัจจัยภายนอก คุณอยู่ในช่วงอายุ 17 ปีซึ่งเป็นเช่วงอายุที่มีอัตราการเกิดสิวสูงอยู่แล้ว จึงไม่แปลกที่คุณจะเป็นสิวเรื้อรัง หรือเป็นๆ หายๆ

เท่าที่คุณเล่ามา การทานยารักษาสิวมา 1 เดือนแล้วสิวยังไม่หายนั้นเป็นเรื่องธรรมดา ทั้งนี้ขึ้นกับระดับความรุนแรงของสิว ถ้าคนไข้ได้รับยารับประทานและยาทาที่เหมาะสม และปฏิบัติตนถูกต้องตามที่แพทย์แนะนำ สิวควรจะดีขึ้นบ้าง เช่น การอักเสบของสิวลดลง หรือจำนวนสิวขึ้นใหม่น้อยลง เป็นต้น

ส่วนยาที่คุณทาแล้วมีแสบหน้าหรือแดงบ้าง เป็นการระคายเคืองที่อาจเกิดจากตัวยาเอง หรือการทายาไม่ถูกวิธี คุณควรปรึกษาแพทย์ที่รักษาคุณอยู่ค่ะ

ส่วนรอยแดงจากสิวนั้นใช้ในการเวลารักษานานเป็นเดือน ซึ่งทำให้จางลงได้โดยใช้ยาทา , การทำ Treatment บางอย่าง หรือเลเซอร์บางชนิดค่ะ

ตอบโดย:พญ. นันทิรัตน์ รุ่งศักดิ์แสงมณี| วันที่ 23/05/2550

จาก: 0 คน
VIEWS
7211