การทำไอออนโตมีที่ใช้กันมานานหลายสิบปี ในทางเวชศาสตร์ฟื้นฟู เพื่อช่วยในการทำกายภาพบำบัด โดยมีหลักการ คือ ปล่อยกระแสไฟฟ้าให้สารละลายที่เป็นตัวยามีการแตกตัวทำให้ตัวยาถูกผลักเข้าไปในชั้นผิวหนังเพิ่มขึ้น ซึ่งในปัจจุบันมีการนำเอาเครื่องไอออนโตมาใช้ร่วมกับตัวยาที่ใช้กับผิวหนัง เช่น วิตามินซี วิตามินอี วิตามินเอ whitening agent ต่างๆ เพื่อหวังว่าจะทำให้ตัวยาออกฤทธิ์ได้มากขึ้น

จากผลงานวิจัยทางการแพทย์ส่วนใหญ่แล้ว พบว่าระหว่างการทำ Iontophoresis ร่วมกับการใช้กลุ่มยาดังกล่าวเปรียบเทียบกับการทายาเพียงอย่างเดียว พบว่าไม่มีความแตกต่างกัน ซึ่งจริงๆ แล้ว วิตามินซี วิตามินอี และวิตามินเอ สามารถซึมผ่านผิวหนังได้โดยไม่จำเป็นต้องใช้การผลักยาด้วยวิธี Iontophoresis เลย และยิ่งไปกว่านั้นยังพบว่าวิธีนี้ยังทำให้ประสิทธิภาพของวิตามินซี เสื่อมลงอีกด้วย แต่ก็มีงานวิจัยที่สนับสนุนการทำ Iontophoresis ร่วมกับการใช้ยาชาชนิดทา ซึ่งพบว่าสามารถออกฤทธิ์ได้เร็วขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

โดยสรุปแล้ว ถ้าคิดจะทำไอออนโต เกี่ยวกับความงามอาจจะต้องคิดให้รอบคอบก่อน อย่าหลงเชื่อ เพราะอาจถูกหลอกได้ง่ายๆ นะคะ

สำหรับคำถามที่ว่ามีอาการหน้าแดงหลังทำไอออนโต อาจเป็นจากฤทธิ์ระคายเคืองของตัวยาที่ใช้ร่วมกับเครื่องไอออนโตได้ เพราะทั้งวิตามินซี และวิตามินเอ มีฤทธิ์ระคายเคืองทำให้มีอาการแสบร้อนผิวหนังหรือทำให้หน้าแดงได้นะคะ