รอยแผลเป็นที่เป็นรอยดำนั้น ตามธรรมชาติแล้วจะจางลงเรื่อยๆ แต่ใช้เวลานานเป็นปีระยะเวลาในแต่ละคนไม่แน่นอน ขึ้นอยู่กับรอยแผลด้วยว่าดำมากหรือน้อย , อายุ ถ้าเป็นในผู้ใหญ่รอยดำก็จะจางช้ากว่าในเด็ก เพราะฉะนั้นการป้องกันก่อนที่จะเกิดรอยดำจะดีที่สุด

ส่วนการรักษา แนะนำว่าควรใช้ยาทาลบรอยดำ, ใช้มอยซ์เจอไรเซอร์บริเวณรอยดำ และพยายามหลีกเลี่ยงแสงแดด, ไม่เกาหรือแกะซ้ำ ซึ่งจะทำให้รอยดำยิ่งดำขึ้นค่ะ

มีเลเซอร์ที่ใช้รักษารอยดำได้ จะได้ผลดีหรือไม่ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น สีผิว ถ้าสีผิวคล้ำมักจะได้ผลไม่ดีเท่าคนผิวขาว หลังจากทำเลเซอร์แล้วถ้ายังไม่จางลง จะทำซ้ำอีกครั้งในช่วง1-2 เดือน สามารถปรึกษาเรื่องเลเซอร์ได้ที่ ราชเทวีคลินิก ทุกสาขา ค่ะ

หมอไม่แน่ใจว่าที่คุณปัญจพร ถามมาหมายถึงรอยดำ หรือ รอยแผลเป็นหลุมนะคะ หากเป็นรอยแผลเป็นหลุมก็จะมีการรักษาแผลเป็นหลุมหลายวิธีค่ะ ก่อนอื่นเราจะพิจารณาจากอายุของแผลเป็น ถ้าเป็นแผลใหม่ๆ การใช้กรดบางชนิดกระตุ้นให้มีการสร้างเนื้อเยื่อใหม่ เช่น TCA กรดวิตามิน A หรือ AHA ก็ได้ผลดี

ถ้าเป็นแผลเป็นเก่าเราจะพิจารณาตามรูปร่างลักษณะของหลุม

1. ถ้าเป็นหลุมแคบแต่ลึก จะใช้วิธีที่เรียกว่า การทำ Punch-graft เป็นการเอาเนื้อเยื่อพังผืดเก่าออก แล้วเนื้อบริเวณส่วนอื่นที่ดีมาแทนที่

2. ถ้าเป็นหลุมที่มีลักษณะกว้างแต่ตื้น มีวิธีการรักษาหลายวิธี อย่างเช่น

- SUBCISION คือ วิธีการใช้เข็ม เซาะเข้าไปใต้ฐานของแผลเป็นแล้วตัดพังผืดที่ยึดใต้แผล หลังจากนั้นร่างกายก็มีการซ่อมแซมต่อไป

- PUNCH - ELEVATON คือ การผ่าตัดดึงเนื้อส่วนที่เป็นหลุมยกขึ้นมาให้อยู่ในระดับเดียวกับผิวหนังข้างเคียงที่ปกติ

- LASERBRASION คือ การใช้เลเชอร์กรอให้ผิวปกติและแผลเป็นหลุมให้ดูเรียบอยู่ในระดับเท่าๆ กัน (วิธีนี้เหมาะกับหลุมตื้นๆ)

นอกจากนี้ยังมีวิธี SOFT TISSUE - AUGMENTATION ซึ่งเป็นวิธีที่ใช้ สารพวก COLLAGEN ( เทียมหรือจากสัตว์, HYARULONIC ACID , ไขมันของตัวเอง ) ฉีดเข้าใต้รอยแผลเป็นเพื่อให้แผลเป็นหลุมนูนขึ้นมาใกล้เคียงผิวปกติค่ะ

ลองปรึกษาคุณหมอที่ดูแลคุณปัญจพร อยู่ดูนะคะ