ต้องการรักษาสิววัยรุ่นให้หายขาด
ลูกสาวปัจจุบันอายุ 17 ปี 1 เดือน เป็นสิวอักเสบหนักมาก มีสิวอุดตันมีรอยแดง เริ่มมีประจำเดือนมาเมื่ออายุ 12 ปีเต็ม แต่ไม่เป็นสิวเพิ่งเริ่มมีสิวขึ้นตอนอายุประมาณ 14ปีไม่มาก ประปราย ตั้งแต่อายุ15 จนถึงปัจจุบันมีสิวเพิ่มขึ้นมากขึ้นเรื่อยๆรักษามาตลอดตั้งแต่อายุ 15 เป็นเวลาเกือบจะ 3 ปีแล้ว ครับ เป็นการใช้ยาทา การกดสิวลดรอยแดง มีทำทรีทเม้นท์ ทำเลเซอร์แต่ไม่เคยให้ลูกทานยาประเภทกรดวิตามินเอ ตอนนี้การรักษาด้วยยาทาภายนอกไม่ได้ผลมีเพื่อนแนะนำให้ทานยาประเภท actinoid หรือ roaccutan คุณพ่อคุณแม่ กลัวผลข้างเคียงจากยาประเภทนี้ เคยอ่านว่ามันไม่ปลอดภัยแล้วก็จะทำให้วัยรุ่นหยุดสูงกระดูกปิด มีผลต่อตับมันจะคุ้มค่ากับการรักษาไหมครับ แต่ลูกสาวอยากทานยาแล้วเพราะกลุ้มใจกับสิวที่เป็นมากขึ้นครับ
คำถามที่:Q20441| จากคุณบ๊อบ| 14/08/2565 19:15 น.

ก่อนอื่นขอทำความเข้าใจเกี่ยวกับ " สิ ว " ก่อนนะคะ

สิวเกิดจากปัจจัย 2 ปัจจัย คือ
1. ฮอร์โมน เป็น ปัจจัยภายในร่างกาย กระตุ้นการทำงานของต่อมไขมัน ส่งเสริมการอุดตันของสิว
2. ปัจจัยภายนอก
     2.1 ยาสเตียรอยด์แบบกินและทา
     2.2 เครื่องสำอางที่พบบ่อย คือ โฟมล้างหน้า ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ครีมรองพื้น
     2.3 การรบกวนผิว เช็ดถูหน้าแรง การขัดหน้านวดหน้า

การนอนดึกพักผ่อนไม่เพียงพอ ความเครียดก็ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงภายในร่างกายเป็นการกระตุ้นทำให้สิวเป็นมากขี้นได้ค่ะ ธรรมชาติของสิวจะเป็นๆหายๆ ดังนั้น เมื่อสิวหายไปแล้วก็จะมีโอกาสกลับมาใหม่ ไม่มียาสิวตัวใดที่จะทำให้สิวหายขาดได้ ค่ะ แต่เราสามารถควบคุมรักษาสิวให้หายหมดได้ หากว่าเราใช้ยาหรือผลิตภัณฑ์ได้ถูกต้องกับชนิด อาการ หรือระยะของสิว เราก็จะสามารถควบคุมสิวและการเกิดสิวได้ ค่ะ

สาเหตุหลักของสิวเป็นผลมาจากฮอร์โมนในตัวเราเอง สิวจะเยอะมากขึ้นในช่วงเครียด นอนดึก อดนอน ช่วงการมีประจำเดือน ช่วงวัยรุ่น การทายารักษาสิวอย่างสม่ำเสมอมีผลต่อการหายของสิว และควรลดสาเหตุที่กระตุ้นการเกิดสิวดังกล่าวข้างต้นด้วยค่ะ หากปล่อยทิ้งไว้อาจจะทำให้เกิดรอยแผลเป็นจากสิวตามมาอีกน่ะค่ะ

การรักษาสิว มีวิธีการรักษาตั้งแต่การทายา รับประทานยา ทำทรีทเมนท์เสริมการรักษา และทำห้ตถการ (เลเซอร์) ในคนไข้บางรายอาจจะต้องใช้หลายๆวิธีผสมผสานกันตามความจำเป็นและเหมาะสม การจะใช้เทคนิควิธีการรักษาด้วยวิธีใดขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ที่ทำการรักษาอยู่ ซึ่งแพทย์จะพิจารณาตามความจำเป็นและเหมาะสมกับคนไข้แต่ละรายค่ะ  

ส่วนการรับประทานยาประเภทกรดวิตามิน A (Retinoic Acid) หรือ Roaccutane นั้น หากทานยานี้ภายใต้การดูแลของแพทย์ก็ไม่ต้องกังวลใจไปค่ะ เพราะคุณหมอจะให้ทานในโดสที่ต่ำในขนาดที่เหมาะสมกับคนไข้แต่ละรายและให้ทานตามความจำเป็น เหมาะสม และปลอดภัย ที่สำคัญไม่ควรซื้อยานี้รับประทานเองค่ะ

การหลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้เกิดสิว การพบหมออย่างต่อเนื่อง มีวินัยในการใช้ยา และปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของคุณหมอจะช่วยให้การรักษาได้ผลดี แนะนำให้ปรึกษารายละเอียดกับคุณหมอที่ทำการรักษาดูแลคุณอยู่โดยตรงอีกครึ่งหนึ่งค่ะ

ตอบโดย:ราชเทวีคลินิก| วันที่ 23/08/2565

จาก: 0 คน
VIEWS
4882