เลเซอร์
หลังจากมีการฟกช้ำรอบดวงตาจากการกระแทกผมได้ทำการประคบร้อนโดยตรง และหลังจากดวงตาเลิกบวม กลับมีรอยดำคล้ำบริเวณรอบดวงตาซึ่งเป็นมาหลักจากการฟกช้ำ2เดือนแล้วและไม่มีการจางลง อยากทราบสาเหตุว่าเกิดจาก ผิวหนังไหม้ใช่หรือไม่ และควรรักษาอย่างไรเลเซอร์สามารถช่วยได้ไหมครับ
คำถามที่:Q20350| จากคุณTan2540| 31/08/2564 10:05 น.

วิธีปฏิบัติตัวเบื้องต้นเมื่อร่างกายได้รับการกระแทกจนเกิดรอยฟกช้ำบวมแดงโดยการประคบเย็นและประคบร้อน/อุ่นบริเวณที่เกิดการฟกช้ำ คือ 24 ชั่วโมงแรกหลังได้รับการกระแทกแล้วเกิดอาการฟกช้ำบวมแดงที่ผิวหนังบริเวณที่ได้รับการกระแทกให้ประคบเย็น หลังจาก 24 ชั่วโมงแล้วค่อยประคบร้อน/อุ่น ค่ะ

ปกติแล้วรอยดำคล้ำใต้ตา/รอบดวงตา/หัวตา เป็นเรื่องที่รักษายาก โดยเฉพาะในคนที่เป็นภูมิแพ้มักจะมีอาการคันที่ตาบ่อย ทำให้เกิดการขยี้บ่อยๆ ซึ่งส่งเสริมให้รอยคล้ำเป็นมากขึ้น ดังนั้นควรหาครีมทารอบดวงตาที่มีความชุ่มชื้นสูง และหลีกเลี่ยงการขยี้ตาค่ะ

สาเหตุของการเกิดรอยคล้ำใต้ตา/หัวตามีด้วยกันหลายสาเหตุ อาทิเช่น เกิดจากการมีอายุที่เพิ่มมากขึ้น การนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ รวมไปถึงกรรมพันธุ์

การแก้ไข : สามารถทำได้หลายวิธี คือ
1. ทาครีมบำรุงรอบดวงตา เช่น Revital Eye Serum, Eye Cream ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่นอกจากให้ความชุ่มชื้นแล้ว ยังช่วยลดความหมองคล้ำและริ้วรอยใต้ตา
2. เครื่องมือแพทย์ เช่น Q-Switched Nd:YAG LASER

การใช้เครื่องมือเลเซอร์รักษาจะช่วยลดรอยย่นใต้ตาได้ค่ะ แต่รอยคล้ำใต้ตาคงต้องดูที่สาเหตุด้วยค่ะ ถ้าหลีกเลี่ยงหรือรักษาไปตามสาเหตุของการเกิดอาการก็จะทุเลาลง หรือบางทีก็หายได้เองโดยไม่ต้องทำเลเซอร์ก็ได้ค่ะ หากรอยคล้ำใต้ตาที่เกิดจากเส้นเลือดใต้ผิวหนัง ปัจจุบันนี้ก็สามารถรักษาได้โดยการฉีดสารเติมเต็มค่ะ

แต่บางกรณีก็ไม่หายขาด เช่น พวกขอบตาคล้ำที่เกิดจากเป็นภูมิแพ้ เป็นต้นค่ะ ส่วนพวกที่หายได้หรือใช้ LASER ช่วย ได้แก่ พวกที่เกิดจากการใช้สายตามากๆ หรือนอนดึกค่ะ อัตราค่าบริการขึ้นอยู่กับเทคนิควิธีหรือเครื่องมือที่ใช้ค่ะ หากเป็นเลเซอร์เฉพาะที่ค่าใช้จ่ายเริ่มต้นที่ 1,000.- ต่อครั้ง ค่ะ

ในกรณีของคุณรอยดำคล้ำรอบดวงตาที่เกิดจากการฟกช้ำแนะนำให้ลองมาเข้าพบคุณหมอโดยตรง เพื่อให้คุณหมอได้ตรวจวินิจฉัยจากสภาพผิวและรอยโรคจริง  คุณหมอจึงจะประเมินและวางแผนการรักษาที่ถูกต้องจำเป็นและเหมาะสมกับคุณให้ได้ค่ะ

ตอบโดย:ราชเทวีคลินิก| วันที่ 11/10/2564

จาก: 0 คน
VIEWS
1471