การฉีดสิว.. หากคุณเป็นสิวอักเสบเม็ดใหญ่ๆ และมีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องให้สิวยุบ จะมีการฉีดยาที่หัวสิวเพื่อให้สิวอักเสบหายอักเสบเร็วขึ้น ถ้าเป็นการฉีดยาสิวนี้คงต้องบอกว่า การฉีดยาเพื่อการลดการอักเสบของสิวนั้นยาที่ใช้ฉีดเป็นกลุ่มยาที่เรียกว่า สเตียรอยด์ (steroid) ซึ่งกลุ่มยาดังกล่าว เมื่อฉีดที่หัวสิวทำให้สิวอักเสบหายอักเสบได้เร็วขึ้น แต่มี ข้อเสีย คือ ตัวยาเองอาจก่อให้เกิดสิวอุดตันมากขึ้นได้ในอนาคต หรือบางครั้งอาจทำให้เกิดแผลเป็นรอยบุ๋มได้ โดยทั่วไปไม่ใช่เรื่องที่ควรทำนัก เพราะระยะยาวผลเสียมากกว่าดีค่ะ ฉะนั้น ถ้าจะฉีดสิวควรมีเหตุจำเป็นจริงๆ เช่น จะรับปริญญา หรือเป็นเจ้าสาว/เจ้าบ่าวในงานแต่งงานเอง ฯลฯ ก็อาจทำเพื่อแก้ไขเหตุการณ์เฉพาะหน้า ไม่เช่นนั้นไม่แนะนำให้ฉีด ยิ่งถ้าเป็นสิวที่ตัวยิ่งไม่แนะนำใหญ่ แพทย์บางคนถือว่าเป็นการสร้างปัญหาให้มากขึ้นด้วยซ้ำไปค่ะ โดยเฉพาะหลังฉีดสิวที่มีลักษณะเป็นถุงหนอง CYSTIC ACNE บางครั้งจะมีหนองไหลออกมาบริเวณรอยที่ฉีดได้ เพราะมีการอักเสบบริเวณข้างเคียงมาก หลังจากสิวยุบจะมีแผลยุบลงไปเล็กน้อย รอยบุ๋มที่เกิดขึ้นจะตื้นขึ้นได้เองแต่ใช้เวลานาน แพทย์จะประเมินว่าจะรอให้ตื้นเองหรือให้การรักษาเพิ่มเติม แต่โดยทั่วไปแพทย์ที่มีประสบการณ์เรื่องโรคผิวหนังก็จะทราบวิธีการฉีด และระมัดระวังในการฉีดให้คนไข้อยู่แล้ว และถ้าเกิดขึ้นแล้วโดยมากจะยุบไม่มาก และจะกลับคืนมาได้จนเป็นปกติหรือเกือบจะปกติ และสามารถแก้ไขได้ด้วยการทำ TREATMENT หรือ LASER ลดรอยแผล ค่ะ หากคุณมีความจำเป็นจริงๆลองเข้าพบและปรึกษาคุณหมอดูได้เลยค่ะ แต่หากคุณไม่มีความจำเป็นรีบด่วนที่จะต้องรับบริการฉีดสิวจริงๆ ก็ไม่แนะนำนะคะ..
การรักษาสิวที่ราชเทวีคลินิกต้องพบแพทย์ เพื่อให้แพทย์ได้ตรวจวินิจฉัยจึงจะประเมินและวางแผนการรักษาที่ถูกต้องจำเป็นและเหมาะสมกับอาการ ชนิด / ลักษณะของสิว ของคนไข้แต่ละรายค่ะ และการรักษาก็เป็นแบบรายครั้ง ไม่มีแบบคอร์ส ค่ะ การรักษาสิว มีวิธีการรักษาตั้งแต่การทายา รับประทานยา ทำทรีทเมนท์เสริมการรักษา และทำห้ตถการ (เลเซอร์) ในคนไข้บางรายอาจจะต้องใช้หลายๆวิธีผสมผสานกันตามความจำเป็นและเหมาะสม การจะใช้เทคนิควิธีการรักษาด้วยวิธีใดขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ที่ทำการรักษาอยู่ ซึ่งแพทย์จะพิจารณาตามความจำเป็นและเหมาะสมกับคนไข้แต่ละรายค่ะ
หลังจากรักษาสิวจนดีขึ้นแล้วควรที่จะใช้ยาทาหรือรับประทานยาต่อไปอีกเพื่อควบคุมการเกิดสิวใหม่ ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของคุณหมอ ซึ่งคุณหมอจะวางแผนการรักษาให้ตามความถูกต้องจำเป็นและเหมาะสมกับคนไข้แต่ละรายอยู่แล้วค่ะ ต้องใช้ระยะเวลาในการรักษานานเท่าไรจึงจะเห็นผลนั้นขึ้นอยู่กับอาการ ชนิด และลักษณะของสิวของคนไข้แต่ละราย การปฏิบัติตัว การมีวินัยในการใช้ยาตามคำแนะนำของแพทย์ รวมไปถึงการตอบสนองต่อการรักษาของคนไข้แต่ละรายด้วยค่ะ แนะนำให้ลองเข้าพบและปรึกษาคุณหมอโดยตรง เพื่อที่คุณหมอจะได้ตรวจวินิจฉัยจากสภาพผิวและอาการของสิวจริง พร้อมทั้งติดตามผลการรักษา คุณหมอจึงจะประเมินและวางแผนการรักษาที่ถูกต้องจำเป็นและเหมาะสมให้กับคุณได้ค่ะ