รอยคีลอยด์ที่จมูก แผลเป็นจากสิว
อยากขอสอบถามการรักษาคีลอยด์ที่จมูกครับ เนื่องจากเป็นแผลเป็นจากสิวอักเสบ ทำให้เกิดแผลนูน แล้วนอกจากนี้รูขุมขนจมูกกว้างด้วย จะสามารถรักษาอย่างไรได้บ้างครับ แล้วสาขาเดอะมอลล์ บางกะปิ มีบริการหรือปล่าวครับ ขอบคุณครับ
คำถามที่:Q18829| จากคุณpeter| 04/07/2559 00:00 น.
มีค่ะ.. หากสะดวกเข้ารับบริการที่ ราชเทวีคลินิก สาขาบางกะปิ (เดอะมอลล์ บางกะปิ) สาขาบางกะปิมีบริการรักษารอยแผลเป็นหลุมและแผลเป็นนูนชนิดคีลอยด์ด้วยเทคนิค พิเศษเฉพาะของราชเทวีคลินิกค่ะ แนะนำให้พบและปรึกษา นพ.ชูเกียรติ เตชะสมบูรณ์ คุณหมอลงตรวจที่สาขาบางกะปิ ทุกวันเสาร์ เวลา 10.30 - 18.30 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร. 0 2734 1725 - 6 ค่ะ

แผลเป็นนูนมี 2 ชนิด คือ แผลเป็นนูน และแผลเป็นนูนชนิดคีลอยด์ การรักษาแผลเป็นนูนจะต้องขึ้นอยู่กับลักษณะและรายละเอียดของแผลที่เป็นด้วย ค่ะ เช่น ขนาด สี ความแข็ง ความนูน ตำแหน่ง ซึ่งการรักษาก็มีตั้งแต่ยาทา ยาฉีด เลเซอร์ และ Scarless Technique หรือใช้การรักษาหลายๆ วิธีร่วมกัน ค่ารักษาขึ้นอยู่กับขนาดของแผลและวิธีการรักษาค่ะ ลองมาพบแพทย์เพื่อให้คำแนะนำอย่างละเอียดดีกว่าค่ะ

แผลเป็นนูนชนิดคีลอยด์สามารถรักษาได้ค่ะ ระยะเวลาและค่าใช้จ่ายขึ้นอยู่กับเทคนิควิธีการรักษาแต่ละวิธี ราชเทวีคลินิกมี Aesthetic Scar เป็นศูนย์บริการรักษารอยแผลเป็นทุกชนิด มีวิธีรักษารอยแผลเป็นนูนด้วยเทคนิควิธีต่างๆ ดังนี้ค่ะ

1. ฉีดยา หากรักษาด้วยการฉีดยาเพื่อรักษาคีลอยด์ สามารถเข้ารับบริการได้ทุกสาขา อัตราค่าบริการอยู่ที่ 500 - 1,000 บาทต่อครั้ง ขึ้นอยู่กับขนาดของคีลอยด์และปริมาณยาที่ใช้ค่ะ

2. Scarless Technique ราชเทวีคลินิกมีวิธีการรักษาคีลอยด์โดยใช้วิธี Scarless Technique เป็นการ Shave หรือใช้ CO2 LASER เป็นการทำลายเนื้อเยื่อผิวที่นูนออกให้เรียบ จากนั้นใช้ Scarless patch with Scarless solution ปิดบนแผลต่อ เพื่อหยุดการสร้างเนื้อเยื่อผิวใหม่บริเวณที่เคยเป็นคีลอยด์ โดยใช้ระยะเวลาในการรักษาประมาณ 1 เดือน หลังรักษาด้วยวิธีนี้พบว่าผิวที่เคยเป็นคีลอยด์มีโอกาสน้อยมากที่จะกลับมา เป็นซ้ำอีก อัตราค่าบริการเริ่มต้นที่ 7,000.- ขณะนี้มีให้บริการที่ Aesthetic Scar Center ศูนย์ดูแลรักษารอยแผลเป็นต่างๆทุกชนิด ซึ่งศูนย์นี้อยู่ใน ราชเทวีคลินิก The Mastery สาขาเพลินจิต จากข้อมูลที่คุณให้มาว่าสะดวกเข้ารับบริการที่สาขาบางกะปิ คุณสามารถเข้าพบคุณหมอที่สาขาบางกะปิก่อนได้เลยค่ะ

ในคนไข้บางรายอาจจะต้องใช้หลายๆวิธีผสมผสานกันค่ะ ถ้าแผลไม่นูนมากอาจใช้เพียงการฉีดยาให้ยุบ วิธี Scarless Technique ไม่มีข้อห้าม แต่เหมาะกับแผลที่นูนมากๆ หรือใหญ่มากที่รักษาด้วยวิธีฉีดไม่ได้ค่ะ

จากนั้นอาจจะต้องตกแต่งแผลให้ดูสวยงามเรียบเนียนขึ้นด้วย

- SM Technique (Scar Modulation Technique) เป็นเทคนิคการปรับผิวและฟื้นฟูสภาพผิวให้เรียบเนียน ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ และเพิ่มความแข็งแรงให้แก่เซลล์ผิว

- SR Technique (Scar Reconstruction Technique) เป็นเทคนิคการผสมผสานวิธีการตกแต่งรอยแผลเป็นหลุมให้เรียบเสมอใกล้เคียงผิวปกติ

ส่วนปัญหาเรื่องรูขุมขุนกว้าง นั้น การจะตอบคำถามนี้ได้คงต้องมาทำความเข้าใจกับธรรมชาติของผิวกันก่อนนะคะ

รูขุมขนกว้างเป็นลักษณะของผิวหนังที่พบได้บ่อย แต่ไม่ถือว่าเป็นโรคทางผิวหนังหรือก่อให้เกิดอันตราย เพียงแต่อาจจะสร้างปัญหาทางความสวยงามได้

ผิวหนังของคนเราจะมีท่อเปิดออกสู่ผิวหนังอยู่ 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ ท่อเปิดต่อมเหงื่อ และท่อเปิดรูขุมขน ซึ่งท่อเปิดชนิดหลังนี้จะเป็นตำแหน่งที่ขนงอกขึ้นมาและเป็นท่อที่ระบายไขมัน ที่สร้างจากต่อม Sebaceous Gland ด้วยท่อรูขุมขนจะมีขนาดโตมากน้อยแตกต่างกันในแต่ละคน ขึ้นอยู่กับ..
      1. อายุ เมื่ออายุมากกว่า 20 ปีขึ้นไป รูขุมขนจะมีโอกาสโตมากขึ้นตามธรรมชาติของผิว
      2. ลักษณะผิว เช่น กรณีที่ต่อม Sebaceous Gland ทำงานผลิตไขมันมาก โอกาสที่รูขุมขนกว้างก็จะมีมากขึ้น เมื่อเทียบกับผู้ที่ต่อม Sebaceous Gland ทำงานน้อยกว่า

ในความเป็นจริงแล้ว.. ลักษณะผิวแต่ละแบบได้ถูกกำหนดมาแล้วจากพันธุกรรมของแต่ละคน ในปัจจุบันนี้ยังไม่มีวิธีใดที่จะสามารถลดขนาดรูขุมขนได้อย่างถาวร แต่ก็มีหลายวิธีที่ช่วยบรรเทาปัญหานี้ เช่น
      (1) ใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ช่วยเพิ่มระดับ Collagen และ Elastin ในผิว เช่น กลุ่มวิตามิน C, Retinol
      (2) ลดปริมาณน้ำมันบนผิวและผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วซึ่งเป็นตัวที่จะอุดตันในรู ขุมขนและทำให้รูขุมขนดูกว้างขึ้น ด้วยผลิตภัณฑ์ที่มี Alpha Hydroxyl Acid (AHA) เป็นส่วนประกอบ (การทำ AHA treatment จึงเป็นวิธีหนึ่งในการแก้ไขปัญหารูขุมขนกว้างได้)
      (3) การใช้ผลิตภัณฑ์กลุ่มที่ผสม Salicylic Acid ซึ่งทำงานคล้ายในกลุ่ม AHA
      (4) การใช้ผลิตภัณฑ์กลุ่ม Oil Control เพื่อควบคุมการผลิตน้ำมันส่วนเกิน
      (5) การใช้เครื่องมือที่กระตุ้น Collagen และ Elastin ใต้ผิว เช่น Nd:YAG LASER, IPL เป็นต้น Collagen และ Elastin ที่ถูกกระตุ้นให้สร้างเพิ่มขึ้นจะช่วยให้ผิวกระชับขึ้น และส่งผลให้รูขุมขนดูกระชับขึ้นด้วย

การทำ Treatment อย่างสม่ำเสมอเป็นการช่วยคงสภาพผิวที่ดีหลังการทำ Treatment ไว้ แต่การที่รูขุมขนจะกระชับได้มากน้อยหรือยาวนานแค่ไหนนั้นยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก เช่น อายุ อากาศ หรือสภาพแวดล้อม การเผชิญกับแสงแดด เป็นต้น

อย่างไรก็ตามแต่ละวิธีก็อาจจะมีข้อบ่งชี้และข้อควรระวังในการใช้ที่แตกต่างกันไปตามสภาพผิวของแต่ละคน ดังนั้น ควรปรึกษาแพทย์ที่ดูแลคุณอยู่โดยตรงเพื่อเลือกวิธีที่เหมาะสมกับคุณค่ะ

ลองเข้าพบและปรึกษาคุณหมอดูนะคะ เพื่อที่คุณหมอจะได้ตรวจจากรอยแผลเป็นจริง คุณหมอจึงจะประเมินและวางแผนการรักษาที่ถูกต้องจำเป็นและเหมาะสมกับคุณให้ต่อไปค่ะ
ตอบโดย:ราชเทวีคลินิก| วันที่ 07/07/2559

จาก: 0 คน
VIEWS
2575