วิตามินบำรุงผมและเล็บ คือ Biotin ขนาดเม็ดละ 600 ไมโครกรัม เป็นหนึ่งในตระกูลวิตามินบี จัดเป็นวิตามินที่ละลายในน้ำจึงไม่มีการสะสม ปลอดภัยแม้รับประทานต่อเนื่องนานหลายปี อาจรับประทานได้มากถึงวันละ 4 - 6 เม็ด (หลังอาหารมื้อใดของวันก็ได้) ในรายที่มีปัญหาผมหรือเล็บมากๆ ค่ะ

การสระผมด้วยน้ำอุ่นอาจทำให้เกิดความแห้งของหนังศีรษะ ซึ่งอาจทำให้เส้นผมที่ไม่แข็งแรงหลุดร่วงได้ง่าย ดังนั้นแนะนำให้สระผมด้วยน้ำเย็น และใช้แชมพูอ่อนๆ สำหรับสระผม (ในกรณีที่สระผมทุกวัน) และหลังจากการสระผมแล้วควรใช้ครีมนวดผมทุกครั้งเพื่อปรับสภาพของเส้นผมให้ปรกติ

การที่ตัดผมสั้นจะดีกว่าการไว้ผมยาวในกรณีที่มีปัญหาผมร่วง เพราะการดูแลรักษาผมที่ยาวนั้นจะยุ่งยากกว่า โดยเฉพาะกรณีที่มีการใช้สารเคมีกับผมบ่อย เช่น อาจจะเกิดจากการสระผม หรือการใช้น้ำยาเคมีต่างๆ ก็มีโอกาสที่เส้นผมจะแตกหักและหลุดร่วงได้ง่าย นอกจากนั้นการที่ผมยาวก็ทำให้การหล่อเลี้ยงของสารอาหารจากรากผมเป็นไปได้ยาก จึงทำให้มีโอกาสที่ผมจะหลุดได้ง่ายกว่าผมที่สั้น

สำหรับในผู้หญิงที่ผมร่วงนั้น แนะนำให้ตัดผมสั้น ใช้แชมพูอ่อนๆ ในการสระผม ไม่ควรสางผมในช่วงที่ผมเปียก (เพราะผมจะอ่อนแอและขาดง่ายตอนที่เปียก) ไม่ควรดัดหรือโกรกสีผม ไม่ควรอบไดร์ผมด้วยเครื่องอบร้อน และนอกจากนั้นอาจรับประทานอาหารเสริมที่บำรุงผม เช่น Biotin วันละ 4 เม็ด โดยสามารถสอบถามได้จากแพทย์ที่คลินิกครับ

การรับประทาน Biotin ช่วยให้ผมแข็งแรงได้จริง โดยวิตามินตัวนี้ช่วยให้ผิวหนัง เส้นผม และเล็บแข็งแรงขึ้น โดยอาหารที่มี Biotin เช่น พวกไข่แดง ตับวัว ตับไก่

ส่วนแชมพู ครีมนวดผม ส่วนใหญ่จะมีสารพวก Pro-vitamin B5 ช่วยเคลือบผม โดยคุณสมบัติโดดเด่น คือ ดูดเก็บกักน้ำได้ดี ทำให้เส้นผมมีความนุ่มเนียนชุ่มชื้น ดูมีน้ำหนักขึ้น หรืออาจมีพวกวิตามิน F คือ พวกกรดไขมันจำเป็น ซึ่งมีส่วนสำคัญต่อความแข็งแรงของผนังเซลล์ รวมทั้งเซลล์ผิวหรือเซลล์ผม ควรเลือกโดยมีส่วนผสมดังที่กล่าวมาก็ถือว่าใช้ได้ครับ