สิวอักเสบ
เป็นสิวอักเสบที่เหมือนมีไตอยู่ข้างในค่ะ เป็นได้สัก 2-4 เดือนแล้ว บางวันก็ยุบไป แต่บางวันก็บวมขึ้นมาอีก เวลาโดนก็จะเจ็บ เพื่อนบอกให้ไปฉีดสิวดู แต่ยังไม่ได้ไปปรึกษาหมอค่ะว่าควรทำยังไง ตอนนี้พ่อให้กินยาแก้อักเสบไปก่อน อยากทราบว่าควรหยุดทานยาก่อนแล้วไปฉีดสิวดีมั้ยคะ
คำถามที่:Q17593| จากคุณChevkanya| 13/03/2558 00:00 น.
เรื่องการฉีดสิวที่คุณกล่าวมาคงหมายถึงการฉีดยาที่หัวสิว เพื่อให้สิวอักเสบหายอักเสบเร็วขึ้น ถ้าเป็นเรื่องนี้คงต้องบอกว่า การฉีดยาเพื่อการลดการอักเสบของสิวนั้น ยาที่ใช้ฉีดเป็นกลุ่มยาที่เรียกว่าสเตียรอยด์ (steroid) ซึ่งกลุ่มยาดังกล่าว เมื่อฉีดที่หัวสิวทำให้สิวอักเสบหายอักเสบได้เร็วขึ้น แต่มี ข้อเสีย คือ ตัวยาเองอาจก่อให้เกิดสิวอุดตันมากขึ้นได้ในอนาคต หรือบางครั้งอาจทำให้เกิดแผลเป็นรอยบุ๋มได้ โดยทั่วไปไม่ใช่เรื่องที่ควรทำนัก เพราะระยะยาวผลเสียมากกว่าดีครับ

ฉะนั้น ปกติถ้ามีเหตุจำเป็น เช่น จะรับปริญญา หรือเป็นเจ้าสาว/เจ้าบ่าวในงานแต่งงานเอง ก็อาจทำเพื่อแก้ไขเหตุการณ์เฉพาะหน้า ไม่เช่นนั้นไม่แนะนำให้ฉีด ยิ่งถ้าเป็นสิวที่ตัวยิ่งไม่แนะนำใหญ่ แพทย์บางคนถือว่าเป็นการสร้างปัญหาให้มากขึ้นด้วยซ้ำไปครับ

โดยเฉพาะหลังฉีดสิวที่มีลักษณะเป็นถุงหนอง CYSTIC ACNE บางครั้งจะมีหนองไหลออกมาบริเวณรอยที่ฉีดได้ เพราะมีการอักเสบบริเวณข้างเคียงมาก หลังจากสิวยุบจะมีแผลยุบลงไปเล็กน้อย รอยบุ๋มที่เกิดขึ้นจะตื้นขึ้นได้เองแต่ใช้เวลานาน แพทย์จะประเมินว่าจะรอให้ตื้นเองหรือให้การรักษาเพิ่มเติมครับ แต่โดยทั่วไปแพทย์ที่มีประสบการณ์เรื่องโรคผิวหนังก็จะทราบวิธีการฉีด และระมัดระวังในการฉีดให้คนไข้อยู่แล้วครับ และถ้าเกิดขึ้นแล้วโดยมากจะยุบไม่มาก และจะกลับคืนมาได้จนเป็นปกติ หรือเกือบจะปกติครับ และสามารถแก้ไขได้ด้วยการทำ TREATMENT หรือ LASER ลดรอยแผลครับ

หากคุณไม่มีความจำเป็นที่จะต้องรับบริการฉีดสิวจริงๆ ไม่แนะนำนะครับ แนะนำให้ลองมาพบและปรึกษาคุณหมอดูนะครับ  เพื่อที่คุณหมอจะได้ตรวจวินิจฉัยพร้อมประเมินและวางแผนการรักษาที่ถูกต้องจำเป็นและเหมาะสมกับคุณให้ต่อไปครับ
ตอบโดย:ราชเทวีคลินิก| วันที่ 13/03/2558

จาก: 0 คน
VIEWS
1719