ปรึกษาปัญหาสิวค่ะ
พอดีลูกสาวปกติเป็นคนผิวหน้าเปนผิวผสม หน้าจะไม่เป็นสิวเลยค่ะ แต่ช่วง 1-6 เดือนที่ผ่านมาได้ทำการรักษา เกียวกับต่อมน้ำเหลืองหมอให้ทานยา แล้วหมอแจ้งว่าตัวยาจะทำให้เกิดเอฟเฟคต่อผิว ตั้งแต่ทานยามาผิวหน้าจะมันมาก และทำให้เกิดสิวผดบริเวณหน้าผากเยอะมากและจะเป็นจุดดำ ๆ ที่ช่วงแก้มจะไม่ค่อยมี แต่อีก 10 วัน จะครบกำหนดที่จะต้องเลิกกินยาแล้ว ดิฉันจึงจะพาลูกสาวมารักษาท่ีราชเทวีค่ะ แต่ดิฉันอยากทราบว่าถ้าลูกสาวรักษาจนผิวหน้าเป็นปกติแล้ว เราต้องทำการรักษาและใช้ยาของราชเทวีตลอดไปมั๊ยค่ะ เพราะเคยได้ยินมาว่าต้องรักษาตลอด ถ้าขาดการรักษาจะกลับมาเป็นสิวอีกค่ะ รบกวนทางราชเทวีแจ้งกลับด้วยนะคะ..ขอบคุณค่ะ
คำถามที่:Q17093| จากคุณน้องแนน| 24/09/2557 00:00 น.
ขึ้นอยู่กับสาเหตุของการเกิดสิวค่ะ ก่อนอื่นขอทำความเข้าใจเกี่ยวกับ " สิ ว " ก่อนนะคะ

สิวเกิดจากปัจจัย 2 ปัจจัย คือ
1. ฮอร์โมน เป็นปัจจัยภายในร่างกาย กระตุ้นการทำงานของต่อมไขมัน ส่งเสริมการอุดตันของสิว
2. ปัจจัยภายนอก
2.1 ยาสเตียรอยด์แบบกินและทา ฮอร์โมน
2.2 เครื่องสำอาง ที่พบบ่อย คือ โฟมล้างหน้า ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว
2.3 การรบกวนผิว เช็ดถูหน้าแรง การขัดหน้านวดหน้า

การนอนดึกพักผ่อนไม่เพียงพอ ความเครียดก็ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงภายในร่างกายเป็นการกระตุ้นทำให้สิวเป็นมากขี้นได้ค่ะ ธรรมชาติของสิวจะเป็นๆ หายๆ ดังนั้นเมื่อสิวหายไปแล้วก็จะมีโอกาสกลับมาใหม่ ไม่มียาสิวตัวใดที่จะทำให้สิวหายขาดได้ค่ะ

สาเหตุหลักของสิวเป็นผลมาจากฮอร์โมนในตัวเราเอง ค่ะ สิวจะเยอะมากขึ้นในช่วงเครียด นอนดึก อดนอน ช่วงการมีประจำเดือน ช่วงวัยรุ่น การทายารักษาสิวอย่างสม่ำเสมอมีผลต่อการหายของสิว และควรลดสาเหตุที่กระตุ้นการเกิดสิวดังกล่าวข้างต้นด้วย ค่ะ

หลังจากรักษาสิวจนดีขึ้นแล้วจึงควรที่จะใช้ยาทาต่อไปอีกเพื่อควบคุมการเกิดสิวใหม่น่ะค่ะ ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของคุณหมอ ซึ่งคุณหมอจะวางแผนการรักษาให้ตามความถูกต้องจำเป็นและเหมาะสมกับคนไข้แต่ละรายอยู่แล้วค่ะ แนะนำให้ลองปรึกษาคุณหมอดูนะคะ
ตอบโดย:ราชเทวีคลินิก| วันที่ 25/09/2557

จาก: 0 คน
VIEWS
2248