เรื่องรูขุมขุนกว้างหรือการกระชับรูขุมขนนั้น การจะตอบคำถามนี้ได้ คงต้องมาทำความเข้าใจกับธรรมชาติของผิวกันก่อนนะคะ
รูขุมขนกว้าง เป็นลักษณะของผิวหนังที่พบได้บ่อย แต่ไม่ถือว่าเป็นโรคทางผิวหนังหรือก่อให้เกิดอันตราย เพียงแต่อาจจะสร้างปัญหาทางความสวยงามได้
ผิวหนังของคนเราจะมีท่อเปิดออกสู่ผิวหนังอยู่ 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ ท่อเปิดต่อมเหงื่อ และ ท่อเปิดรูขุมขน ซึ่งท่อเปิดชนิดหลังนี้จะเป็นตำแหน่งที่ขนงอกขึ้นมาและเป็นท่อที่ระบายไขมันที่สร้างจากต่อม sebaceous gland ด้วย ท่อรูขุมขนจะมีขนาดโตมากน้อยแตกต่างกันในแต่ละคน ขึ้นอยู่กับ
(1) อายุ เมื่ออายุมากกว่า 20 ปีขึ้นไป รูขุมขนจะมีโอกาสโตมากขึ้นตามธรรมชาติของผิว
(2) ลักษณะผิว เช่น กรณีที่ต่อม sebaceous gland ทำงานผลิตไขมันมาก โอกาสที่รูขุมขนกว้างก็จะมีมากขึ้น เมื่อเทียบกับผู้ที่ต่อม sebaceous gland ทำงานน้อยกว่า
ในความเป็นจริงแล้ว ลักษณะผิวแต่ละแบบได้ถูกกำหนดมาแล้วจากพันธุกรรมของแต่ละคน ในปัจจุบันนี้ยังไม่มีวิธีใดที่จะสามารถลดขนาดรูขุมขนได้อย่างถาวร แต่ก็มีหลายวิธีที่ช่วยบรรเทาปัญหานี้ เช่น
(1) ใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ช่วยเพิ่มระดับ collagen และ elastin ในผิว เช่น กลุ่มวิตามิน C, retinol
(2) ลดปริมาณน้ำมันบนผิวและผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วซึ่งเป็นตัวที่จะอุดตันในรูขุมขนและทำให้รูขุมขนดูกว้างขึ้น ด้วยผลิตภัณฑ์ที่มี alpha hydroxyl acid ( AHA ) เป็นส่วนประกอบ ( การทำ AHA treatment จึงเป็นวิธีหนึ่งในการแก้ไขปัญหารูขุมขนกว้างได้ )
(3) การใช้ผลิตภัณฑ์กลุ่มที่ผสม salicylic acid ซึ่งทำงานคล้ายในกลุ่ม AHA
(4) การใช้ผลิตภัณฑ์กลุ่ม oil control เพื่อควบคุมการผลิตน้ำมันส่วนเกิน
(5) การใช้เครื่องมือที่กระตุ้น collagen และ elastin ใต้ผิว เช่น Nd:YAG LASER , IPL เป็นต้น collagen และ elastin ที่ถูกกระตุ้นให้สร้างเพิ่มขึ้นจะช่วยให้ผิวกระชับขึ้นและส่งผลให้รูขุมขนดูกระชับขึ้นด้วย
การทำ Treatment อย่างสม่ำเสมอ เป็นการช่วยคงสภาพผิวที่ดีหลังการทำ treatment ไว้ แต่การที่รูขุมขนจะกระชับได้มากน้อยหรือยาวนานแค่ไหนนั้น ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก เช่น อายุ, อากาศ หรือสภาพแวดล้อม, การเผชิญกับแสงแดด เป็นต้น
อย่างไรก็ตามแต่ละวิธีก็อาจจะมีข้อบ่งชี้และข้อควรระวังในการใช้ที่แตกต่างกันไปตามสภาพผิวของแต่ละคน ดังนั้น ควรปรึกษาแพทย์เพื่อเลือกวิธีที่เหมาะสมกับคุณ ค่ะ
ส่วนรอยแผลเป็นหลุมสิวสามารถรักษาให้ดีขึ้นได้ ราชเทวีคลินิกใช้เทคนิคการรักษาแบบ SR Technique & SM Technique ค่ะ
- SR Technique (Scar Reconstruction Technique) เป็นเทคนิคการผสมผสานวิธีการตกแต่งรอยแผลเป็นหลุม ให้เรียบเสมอใกล้เคียงผิวปกติ
- SM Technique (Scar Modulation Technique) เป็นเทคนิคการปรับผิวและฟื้นฟูสภาพผิวให้เรียน เนียน ปรับสีผิวให้สม่ำเพิ่มความแข็งแรงให้แก่เซลล์ผิว
ซึ่งรอยแผลเป็นหลุมใช้ SR Technique จะทำประมาณ 1 - 2 ครั้ง รอยหลุมก็จะดีขึ้น ส่วน SM Technique จะต้องทำประมาณ 5 - 10 ครั้ง รอยหลุมจึงจะดีขึ้น ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับอายุ ความลึก ลักษณะของรอยหลุม และการตอบสนองของแต่ละคนด้วยค่ะ ในคนไข้บางรายอาจจะต้องใช้หลายๆเทคนิควิธีผสมผสานกันค่ะ
อัตราค่าบริการด้วย SR Technique เริ่มต้นที่จุดละ 500.- ค่ะ หากเป็นรอยหลุมสิวเยอะๆ สามารถคิดในราคาเหมาต่อครั้งได้ค่ะ ส่วน SM Technique เฉพาะส่วนเริ่มต้นที่ครั้งละ 1,000.- ทั่วหน้าเริ่มต้นที่ครั้งละ 3,000.- ทั้งนี้ทั้งนั้นควรจะรักษาสิวให้หายด้วยเพื่อป้องกันการเกิดสิวใหม่และรอยแผลเป็นเพิ่มนะคะ
แนะนำให้มาพบและปรึกษาคุณหมอ เพื่อให้คุณหมอได้ตรวจวินิจฉัยจากรอยแผลจริงจึงจะประเมินและวางแผนการรักษาที่จำเป็นและเหมาะสมให้ได้ค่ะ