สิวเกิดจากปัจจัย 2 ปัจจัย คือ
1. ฮอร์โมน เป็นปัจจัยภายในร่างกาย กระตุ้นการทำงานของต่อมไขมัน ส่งเสริมการอุดตันของสิว
2. ปัจจัยภายนอก
2.1 ยาสเตียรอยด์แบบกินและทา
2.2 เครื่องสำอาง ที่พบบ่อย คือ โฟมล้างหน้า ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว
2.3 การรบกวนผิว เช็ดถูหน้าแรง การขัดหน้านวดหน้า
การนอนดึกพักผ่อนไม่เพียงพอ ความเครียดก็ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงภายในร่างกายเป็นการกระตุ้นทำให้สิวเป็นมากขี้นได้ครับ ธรรมชาติของสิวจะเป็นๆ หายๆ ดังนั้นเมื่อสิวหายไปแล้วก็จะมีโอกาสกลับมาใหม่ ไม่มียาสิวตัวใดที่จะทำให้สิวหายขาดได้ครับ
สาเหตุหลักของสิวเป็นผลมาจากฮอร์โมนในตัวเราเอง ครับ สิวจะเยอะมากขึ้นในช่วงเครียด , นอนดึก อดนอน , ช่วงการมีประจำเดือน , ช่วงวัยรุ่น การทายารักษาสิวอย่างสม่ำเสมอมีผลต่อการหายของสิว และควรลดสาเหตุที่กระตุ้นการเกิดสิวดังกล่าวข้างต้นด้วยครับ
ส่วนวิธีการรักษาสิวมีตั้งแต่การทายา รับประทานยา ทำทรีทเมนท์เสริมการรักษา ทำหัตถการ (เลเซอร์ต่างๆ) ในคนไข้บางรายอาจจะต้องใช้หลายๆวิธีผสมผสานกัน ที่สำคัญคืออย่าบีบแกะสิวและต้องป้องกันการเกิดสิวใหม่ เพื่อลดโอกาสการเกิดรอยแผลเป็นจากสิวตามมานะครับ อัตราค่าบริการขึ้นอยู่กับยาที่ได้รับ ทรีทเมนท์และหัตถการต่างๆ ที่ทำ หากได้รับเฉพาะยาทาและยารับประทานค่าใช้จ่ายอยู่ที่ประมาณ 500 - 1,000 บาทต่อสัปดาห์ครับ
รอยแผลเป็นหลุมจากสิว สามารถรักษาให้ดีขึ้นได้ ราชเทวีคลินิกใช้เทคนิคการรักษาแบบ SR Technique & SM Technique ครับ
- SR Technique (Scar Reconstruction Technique) เป็นเทคนิคการผสมผสานวิธีการตกแต่งรอยแผลเป็นหลุม ให้เรียบเสมอใกล้เคียงผิวปกติ
- SM Technique (Scar Modulation Technique) เป็นเทคนิคการปรับผิวและฟื้นฟูสภาพผิวให้เรียน เนียน ปรับสีผิวให้สม่ำเพิ่มความแข็งแรงให้แก่เซลล์ผิว
ซึ่งรอยแผลเป็นหลุมใช้ SR Technique จะทำประมาณ 1 - 2 ครั้ง รอยหลุมก็จะดีขึ้น ส่วน SM Technique จะต้องทำประมาณ 5 - 10 ครั้ง รอยหลุมจึงจะดีขึ้น ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับอายุ ความลึก ลักษณะของรอยหลุม และการตอบสนองของแต่ละคนด้วยค่ะ ในคนไข้บางรายอาจจะต้องใช้หลายๆเทคนิควิธีผสมผสานกันค่ะ
อัตราค่าบริการด้วย SR Technique เริ่มต้นที่จุดละ 500.- ค่ะ หากเป็นรอยหลุมสิวเยอะๆ สามารถคิดในราคาเหมาต่อครั้งได้ค่ะ ส่วน SM Technique เฉพาะส่วนเริ่มต้นที่ครั้งละ 1,000.- ทั่วหน้าเริ่มต้นที่ครั้งละ 3,000.- ทั้งนี้ทั้งนั้นควรจะรักษาสิวให้หายด้วยเพื่อป้องกันการเกิดสิวใหม่และรอยแผลเป็นเพิ่มนะคะ
ผมร่วง : สาเหตุผมร่วงมีหลายสาเหตุ ตั้งแต่เป็นเพราะวงจรผมที่มันจะหลุดร่วงอยู่แล้ว แต่มีปัจจัยอื่นๆ มากระตุ้นทำให้หลุดร่วงมากกว่าปกติ เช่น ไข้, ความเจ็บป่วย ความเครียด การได้รับยาบางประเภท เช่น ยาคุมกำเนิด ยาละลายลิ่มเลือด ยาควบคุมความดัน
นอกจากนี้ผมร่วงแบบกรรมพันธุ์ก็อาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้หลุดร่วงเพราะเป็นลักษณะผมร่วงง่าย โดยไม่มีแผลใดๆ เกิดขึ้นค่ะ
แนะนำให้มาพบและปรึกษาแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจวินิจฉัยถึงสาเหตุของผมร่วงจึงจะประเมินและวางแผนการรักษาให้ต่อไปค่ะ การรักษามีตั้งแต่การหยอดยา รับประทานยา ค่าใช้จ่ายก็ขึ้นอยู่กับยาที่ได้รับไปค่ะ
อาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินชนิดหนึ่งที่เรียกว่า วิตามิน H หรือ โคเอนไซม์ R หรือ ไบโอติน (BIOTIN) ช่วยทำให้เส้นผมแข็งแรงขึ้นค่ะ โดยธรรมชาติเราได้ไบโอตินจากอาหารที่รับประทาน เช่น ไข่แดง นม เนย ถั่ว หรือเครื่องใน เช่น ตับไต
ในปัจจุบันมี ไบโอติน ชนิดรับประทานให้เสร็จสรรพ สะดวกมากสำหรับผู้ที่ต้องการเสริมสร้างความแข็งแรงและบำรุงผมและเล็บ (ในท้องตลาดมีขนาดบรรจุ 150 และ 600 ไมโครกรัม /แคปซูล ขณะที่มีปัญหาผมร่วงไม่แข็งแรง ควรรับประทาน 1,200-2,400 ไมโครกรัม/วัน มักจะดีขึ้นใน 3-4 สัปดาห์
วิธีช่วยดูแลผม
1. เสริมสร้างความแข็งแรงให้กับรากผม
- ดูแลจากภายใน คือ รับประทานอาหารให้เพียงพอ โดยเฉพาะในกลุ่มโปรตีน และวิตามินที่มีคุณประโยชน์ต่อผม ดังได้กล่าวในข้อ 2
- ดูแลจากภายนอก โดยใช้แชมพู , ครีมนวด หรือคอนดิชั่นเนอร์หลังสระผม ตลอดจนการทำทรีทเมนต์ผมต่างๆ ซึ่งผลิตภัณฑ์กลุ่มบำรุงผมส่วนใหญ่จะผสมวิตามินหรือสารที่ช่วยให้ผมแข็งแรงขึ้น หรือบางคนอาจหวนคืนสู่ธรรมชาติ ก็อาจชอบหมักผมกับไข่แดง หรือหมักเบียร์ ก็มีค่ะ (ในไข่แดง และเบียร์ อุดมด้วยวิตามินไบโอติน แต่วิธีนี้หลายๆ คนมองว่ายุ่งยากไปนิด ทานวิตามินไบโอตินสะดวกและง่ายกว่าค่ะ)
2. หลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีที่ทำลายเส้นผมหรือการดูแลผมที่ไม่ถูกต้อง
- การใช้สารเคมีกับผม เช่น ย้อม , โกรก , กัดสี , ยืด และดัดผม หากใช้บ่อยเกินไป หรือนานเกินไป จะทำให้ผมอ่อนแอและแตกหักง่าย หรืออาจทำให้เกิดอาการแพ้ และหนังศีรษะอักเสบได้
- ทรงผมที่รวบตึงแน่นๆ เช่น ทรงหางม้า หรือผูกเปีย ที่ดึงรั้งมากเกินไป หากทำนานๆ เป็นประจำพบว่าผมจะร่วงบางลงได้โดยเฉพาะตำแหน่งด้านข้างของหนังศีรษะ
- ความเครียด , ภาวะเจ็บไข้ได้ป่วย , การใช้ยาบางประเภท ก็มีส่วนทำให้ผมร่วงได้ค่ะ
3. หากพบปัญหาผิดปกติของเส้นผม หรือหนังศีรษะเกิดขึ้นแล้ว แนะนำปรึกษาแพทย์ดูอาการค่ะ เนื่องจากอาการผมร่วงอาจมีสาเหตุจากโรคต่างๆ ได้มากมาย ควรจะให้แพทย์รักษาให้ตรงกับสาเหตุจะดีที่สุดค่ะ
ส่วน Zinc : สังกะสี เป็นหนึ่งในแร่ธาตุที่พบได้บ่อยในอาหารเสริมบำรุงสุขภาพและผิวพรรณ ไม่มีรายงานว่าแร่ธาตุสังกะสีกระตุ้นการสร้าง collagen โดยตรง แต่กรณีร่างกายขาดสังกะสีรุนแรง จะมีผลต่อระบบภูมิต้านทานของร่างกาย, ผื่น ผิวหนังอักเสบ, ผมร่วง และแผลผ่าตัดสมานตัวช้า ค่ะ
แนะนำให้มาพบและปรึกษาคุณหมอ เพื่อให้คุณหมอได้ตรวจวินิจฉัยจากรอยแผลจริงจึงจะประเมินและวางแผนการรักษาที่จำเป็นและเหมาะสมให้ได้ค่ะ