รูขุมขนกว้างมากมายคะ
รูขุมขนกว้างมากมายคะ แนะนำใช้ยาตัวไหนบ้างคะ แล้ว lax3 and whitening d ตัวไหนดีกว่ากัน แล้วถ้าใช้ทั้ง2ตัว ประสิทธิภาพเท่าเดิมไม๊ จำเปนไม๊ที่ต้องทั้ง2ตัว เลือกตัวใดตัวหนึ่งได้ไม๊ ถ้าได้แนะนำตัวไหนคะคุณหมอ หรือแนะนำให้ใช้ทั้ง2ตัวเลยคะ
คำถามที่:Q14625| จากคุณป๋องแป้ง| 04/12/2555 00:00 น.
ปัญหาเรื่องรูขุมขุนกว้างนั้น การจะตอบคำถามนี้ได้ คงต้องมาทำความเข้าใจกับธรรมชาติของผิวกันก่อนนะคะรูขุมขนกว้าง เป็นลักษณะของผิวหนังที่พบได้บ่อย แต่ไม่ถือว่าเป็นโรคทางผิวหนังหรือก่อให้เกิดอันตราย เพียงแต่อาจจะสร้างปัญหาทางความสวยงามได้

ผิวหนังของคนเราจะมีท่อเปิดออกสู่ผิวหนังอยู่ 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ ท่อเปิดต่อมเหงื่อ และ ท่อเปิดรูขุมขน ซึ่งท่อเปิดชนิดหลังนี้จะเป็นตำแหน่งที่ขนงอกขึ้นมาและเป็นท่อที่ระบายไขมันที่สร้างจากต่อม sebaceous gland ด้วย ท่อรูขุมขนจะมีขนาดโตมากน้อยแตกต่างกันในแต่ละคน ขึ้นอยู่กับ

     1. อายุ เมื่ออายุมากกว่า 20 ปีขึ้นไป รูขุมขนจะมีโอกาสโตมากขึ้นตามธรรมชาติของผิว

     2. ลักษณะผิว เช่น กรณีที่ต่อม sebaceous gland ทำงานผลิตไขมันมาก โอกาสที่รูขุมขนกว้างก็จะมีมากขึ้น เมื่อเทียบกับผู้ที่ต่อม sebaceous gland ทำงานน้อยกว่า

ในความเป็นจริงแล้ว ลักษณะผิวแต่ละแบบได้ถูกกำหนดมาแล้วจากพันธุกรรมของแต่ละคน ในปัจจุบันนี้ยังไม่มีวิธีใดที่จะสามารถลดขนาดรูขุมขนได้อย่างถาวร แต่ก็มีหลายวิธีที่ช่วยบรรเทาปัญหานี้ เช่น
     (1) ใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ช่วยเพิ่มระดับ collagen และ elastin ในผิว เช่น กลุ่มวิตามิน C, retinol
     (2) ลดปริมาณน้ำมันบนผิวและผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วซึ่งเป็นตัวที่จะอุดตันในรูขุมขนและทำให้รูขุมขนดูกว้างขึ้น ด้วยผลิตภัณฑ์ที่มี alpha hydroxyl acid ( AHA ) เป็นส่วนประกอบ ( การทำ AHA treatment จึงเป็นวิธีหนึ่งในการแก้ไขปัญหารูขุมขนกว้างได้ )
     (3) การใช้ผลิตภัณฑ์กลุ่มที่ผสม salicylic acid ซึ่งทำงานคล้ายในกลุ่ม AHA
     (4) การใช้ผลิตภัณฑ์กลุ่ม oil control เพื่อควบคุมการผลิตน้ำมันส่วนเกิน
     (5) การใช้เครื่องมือที่กระตุ้น collagen และ elastin ใต้ผิว เช่น Nd:YAG LASER , IPL เป็นต้น collagen และ elastin ที่ถูกกระตุ้นให้สร้างเพิ่มขึ้นจะช่วยให้ผิวกระชับขึ้นและส่งผลให้รูขุมขนดูกระชับขึ้นด้วย
การทำ Treatment อย่างสม่ำเสมอ เป็นการช่วยคงสภาพผิวที่ดีหลังการทำ treatment ไว้ แต่การที่รูขุมขนจะกระชับได้มากน้อยหรือยาวนานแค่ไหนนั้น ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก เช่น อายุ, อากาศ หรือสภาพแวดล้อม, การเผชิญกับแสงแดด เป็นต้น

อย่างไรก็ตามแต่ละวิธีก็อาจจะมีข้อบ่งชี้และข้อควรระวังในการใช้ที่แตกต่างกันไปตามสภาพผิวของแต่ละคน ดังนั้น ควรปรึกษาแพทย์เพื่อเลือกวิธีที่เหมาะสมกับคุณ ค่ะ

LAX3 และ Whitening D มีคุณสมบัติต่างกันดังนี้

LAX3  มีคุณสมบัติช่วยลดรอยหมองคล้ำ รอยดำจากฝ้า ทั้งฝ้าเม็ดสี ฝ้าเส้นเลือด และฝ้าผสม และยังช่วยฟื้นฟูเซลสร้างสีให้กลับคืนสู่สมดุลตามภาวะผิวปกติ ค่ะ

Whitening D  ช่วยให้ผิวขาวขึ้น จุดด่างดำจาง ทั้งในผิวของคนเอเชียและคนผิวขาว ป้องกันความคลํ้าจากแสงแดด และช่วยให้ผิวชุ่มชื้น

การจะเลือกใช้ยาตัวใดขึ้นอยู่กับสภาพผิวและปัญหาผิวของแต่ละคนค่ะ แนะนำให้ปรึกษาคุณหมอที่ดูแลคุณอยู่เลยจะดีกว่าค่ะ เพราะคุณหมอเป็นผู้ที่ได้ตรวจวินิจฉัยจากรอยโรคจริงจะวางแผนการรักษาได้ถูกต้องเหมาะสมที่สุดค่ะ

ตอบโดย:ราชเทวีคลินิก| วันที่ 17/12/2555

จาก: 0 คน
VIEWS
2046