สิว
เป็นสิวอุดตันและสิวผดเล็ก ควรทำอย่างไร และ สิวที่หลังเกิดจากอะไร มีวิธีรักษาอย่างไรบ้าง
คำถามที่:Q13622| จากคุณPoppylgdf| 09/04/2555 00:00 น.

วิธีการรักษาสิวมีตั้งแต่การทายา รับประทานยา ทำทรีทเมนท์เสริมการรักษา ทำหัตถการ (เลเซอร์ต่างๆ) ในคนไข้บางรายอาจจะต้องใช้หลายๆวิธีผสมผสานกัน

การเจาะสิว การกดสิว คือ การรักษาสิวอุดตันด้วย CO2 LASER เป็นวิธีที่ช่วยให้สิวหายเร็วขึ้น และ ลดโอกาสการเกิดรอยแผลเป็นจากสิว  นอกจากนี้เลเซอร์ยังสามารถฆ่าเชื้อโรคและทำลายต่อมไขมันบางส่วน ซึ่งจะมีส่วนให้สิวยุบเร็วขึ้นและป้องกันการเกิดสิวใหม่ ครับ

การใช้เลเซอร์ CO2 เจาะสิว วิธีการ คือ เราจะใช้เครื่องมือที่เรียกว่า คาร์บอนไดออกไซด์เลเซอร์ (CO2 LASER) ก่อนการรักษาจะทายาชาบนหัวสิวประมาณ 45 นาที เพื่อให้รู้สึกสบายเวลาทำ หรือในบางครั้งใช้แค่ประคบเย็นแล้วยิงได้เลย ลำแสงจากเลเซอร์จะทำให้ผิวหนังที่หุ้มหัวสิวอยู่เกิดเป็นรูเล็กๆ เพื่อใช้เป็นทางระบาย จากนั้นกดเอาก้อนไขมันที่อยู่ข้างใต้ออกมาโดยใช้อุปกรณ์กดสิว

การทำเลเซอร์สิวอุดตันมักจะมีสะเก็ดอยู่ประมาณ 3 - 7 วัน ทั้งนี้การที่สะเก็ดหลุดเร็วหรือช้าขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ในสภาพผิวมันสะเก็ดจะหลุดเร็วกว่าสภาพผิวแห้ง หรือการทาครีม ล้างหน้าอย่างอ่อนโยนถูกวิธี เป็นต้น การที่สะเก็ดหลุดเร็วก่อนเวลาอันควร อาจทำให้ผิวบริเวณนั้นมีรอยแดงดำเกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะถ้าไปโดนแดด ดังนั้นหลังทำเลเซอร์ไปจนถึงช่วงสะเก็ดหลุดใหม่ๆ ควรหลีกเลี่ยงการโดนแดดจัดๆ และควรทาครีมกันแดดเป็นประจำด้วยครับ

หลังกดสิวอาจมีรอยแดงหรือการระคายเคืองได้ กรณีเจาะสิวหลายๆ จุดอาจต้องงดยาทาสิวบางตัว ทานยาแก้อักเสบแทน 1 สัปดาห์ แต่ล้างหน้าได้ตามปกติครับ

อัตราค่าบริการการรักษาสิวที่ราชเทวีคลินิกเป็นแบบรายครั้งขึ้นอยู่กับยาที่ได้รับ (มีทั้งยาทาและยารับประทาน) ทรีทเมนท์ และหัตถการ (เลเซอร์ต่างๆ) ที่ใช้ค่ะ  ไม่มีเป็นแบบคอร์สค่ะ  หากได้รับแค่ยาทาและยารับประทานก็ประมาณครั้งละ 500.- ขึ้นไปค่ะ (ยา 1 สัปดาห์) หากรักษาสิวอุดตันด้วย CO2 LASER ก็เป็นแบบรายครั้ง ไม่มีแบบคอร์ส เริ่มต้นที่จุดละ 300.-  หากมีสิวอุดตันจำนวนมากๆ สามารถคิดในราคาเหมาได้ครับ 

การเกิดสิวที่ใบหน้าและลำตัวมีสาเหตุอย่างเดียวกัน คือ การแปรปรวนของฮอร์โมนเพศในร่างกายเราเอง แต่บางคนเป็นสิวที่หน้า บางคนเป็นสิวที่ตัว บางคนเป็นสิวอุดตัน บางคนเป็นสิวอักเสบ อันนี้ขึ้นตามพันธุกรรมครับ ดังนั้นคนแต่ละคนจะมีสิวมากน้อยไม่เท่ากัน ส่วนปัจจัยภายนอกอื่นๆ เช่น สบู่บางชนิด เหงื่อออกมาก ความอับชื้น จะทำให้สิวเป็นมากขึ้นได้ครับ แต่ไม่ว่าจะเป็นสิวแบบไหนก็รักษาได้ทั้งนั้น แต่สิวที่หลังมักจะหายช้ากว่าสิวบนใบหน้าครับ

การรักษาสิวที่หลัง คงต้องเริ่มจากการหลีกเลี่ยงการระคายเคืองที่ผิวหนัง คือ ไม่ควรขัด ถู เพราะสิวไม่ได้เกิดจากความสกปรกน่ะครับ ส่วนการรักษามีได้ตั้งแต่การทายาเพื่อละลายหัวสิว การรับประทานยาปฏิชีวนะ เพื่อลดการอักเสบของสิว แต่การจะเลือกใช้วิธีใดนั้นคงต้องขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรคด้วยครับ

สิวที่หลังมักขึ้นมาจากเหงื่อออกและแห้งไปกับตัว ควรอาบน้ำทันทีหลังเหงื่อออกแล้วเช็ดตัวให้แห้ง เปลี่ยนเสื้อที่แห้งสะอาด จะช่วยได้ดี แต่ถ้าทำทำไม่ได้ก็สามารถใช้ยากินที่เป็นกลุ่มกรดวิตามิน เอ สิวจะแห้งลงไปได้ภายใน 2-4 สัปดาห์ และมียาลักษณะคล้ายแป้งน้ำสำหรับทาเพื่อรักษาสิวที่หลัง ยาช่วยให้สิวหลุดง่าย แต่ต้องใช้เวลา ใช้ยาต่อเนื่อง 4-6 สัปดาห์ ...  ซึงใช้ต่อเนื่องได้ ไม่มีผลข้างเคียงครับ

ลองปรึกษาคุณหมอดูนะครับ เพี่อว่าคุณหมอจะได้ตรวจวินิจฉัย ประเมิน และวางแผนการรักษาให้ตามความจำเป็นและเหมาะสมต่อไปครับ

ตอบโดย:ราชเทวีคลินิก| วันที่ 09/04/2555

จาก: 0 คน
VIEWS
3140