ชนิดรอยแผลเป็น

คืออยากถามว่า

- ถ้าโดนเหล็กฟาดหน้านี่จะเป็นแผลคีลอยด์ไหมคะ เพราะเคยอ่านในเว็บมาแบบถ้าถูกของมีคมบาดอะค่ะ

- ตอนนี้ดิฉันทายาบ่อยมาก แล้วรู้สึกแผลคล้ำกว่าเดิม จากสีแดงออกสีไปทางแดงน้ำตาล แบบนี้เป็นเพราะอะไรคะ ทายามากเกินไปหรือจะเป็นแผลคีลอยด์ ?

รบกวนด้วยนะคะกลุ้มใจมาก ขอบคุณค่ะ

คำถามที่:Q13596| จากคุณluffy| 04/04/2555 00:00 น.
แผลเป็นนูน ชนิด คีลอยด์ (Keloid) คือ แผลเป็นที่มีลักษณะนูนและแดง แต่มีความผิดปกติเมื่อร่างกายมีบาดแผล ผิวก็จะมีการสร้างเนื้อเยื่อซ่อมแซมที่มากเกินไป ทำให้เกิดการขยายตัวกว้างขึ้นเข้าสู่เนื้อเยื่อรอบๆ รอยโรค ขนาดของแผลจะกว้างกว่าแผลเดิมตอนเริ่มต้น และมีแนวโน้มที่จะขยายขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ
เพศ วัย ที่พบ: มักพบใน
  • ผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย
  • ผู้ใหญ่มากกว่าเด็ก (ในวัยรุ่นและวัยเจริญพันธุ์จะมีโอกาสเกิดแผลเป็นได้บ่อยกว่าในวัยอื่นๆ)
  • คนผิวคล้ำจะมีโอกาสเกิดแผลเป็นได้บ่อยและรุนแรงกว่าคนผิวขาว
  • ผู้ที่มีประวัติการเกิดแผลเป็นและมีประวัติของครอบครัวมีแผลเป็น จะมีโอกาสเกิดแผลเป็นได้มากกว่าผู้ที่ไม่เคยมีประวัติ

ปัจจัยที่เป็นเหตุให้เกิดแผลเป็นนูน: ที่พบบ่อยๆ ได้แก่

  • แผลจากการเป็นสิว
  • แผลจากการเจาะหู
  • แผลปลูกฝี ฉีดวัคซีน
  • แผลผ่าตัดต่างๆ
  • แผลผ่าคลอด
  • แผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก
  • แผลถูกของมีคมบาด
  • แผลจากอุบัติเหตุ
  • แผลจากรอยสัก

ลักษณะทั่วไป : แผล เป็นนูนชนิดคีลอยด์จะมีขนาดใหญ่กว่าแผลเป็นธรรมดา และกว้างใหญ่กว่าแผลตอนเริ่มต้น มีลักษณะนูน แข็ง หรือหยุ่นคล้ายยาง ผิวมัน มองเห็นชัดเจนจากผิวหนังปกติ มีสีแดงเนื่องจากมีเส้นเลือดมาเลี้ยงเป็นจำนวนมาก แผลเป็นนูนชนิดคีลอยด์อาจจะมีอาการเจ็บ คัน ร่วมด้วย อาจจะกดแล้วเจ็บ ก้อนเนื้ออาจจะค่อยๆ โตขึ้นหรือคงที่แต่จะใหญ่กว่าแผลเดิม

สาเหตุ: แผล เป็นนูนเกิดจากการแบ่งตัวที่ผิดปกติของเนื้อเยื่อผิวหนังส่วนที่เป็นแผล ผิวหนังมีการสร้างเนื้อเยื่อซ่อมแซมที่มากเกินไป จนทำให้เกิดการขยายตัวกว้างขึ้นมากกว่ารอยแผลที่เป็นอยู่ และพันธุกรรมมีส่วนทำให้เกิดรอยโรคได้

ตำแหน่งที่พบ: แผลเป็นนูนมักพบได้ทั่วร่างกาย ส่วนมากพบบริเวณผิวหนังที่ตึงตัว โดยจะเห็นมากบริเวณหลัง ไหล่ แขน ขา คอ หน้าอก และหลังหู

วิธีการรักษาแผลเป็นนูนแบบอื่น: มีหลายวิธีดังนี้
   1. การใช้ยาทาแก้แผลเป็น เช่น ยากลุ่มสเตียรอยด์ ยาที่มีวิตามิน E หรือ A เป็นส่วนประกอบ กรณีที่แผลเป็นนูนเป็นเพียงเล็กน้อยและไม่นานนัก
   2. การใช้แผ่นซิลิโคนเจลปิดบริเวณแผลเป็น สำหรับแผลเป็นที่เป็นใหม่ๆ เพื่อช่วยลดการขยายตัวของแผล
   3. การฉีดยาสเตียรอยด์ที่บริเวณแผลเป็น เพื่อให้แผลเป็นยุบลง แต่ต้องฉีดหลายครั้งจนกว่าแผลจะยุบและเรียบ
   4. การผ่าตัด เพื่อเอาแผลเก่าออกแล้วเย็บแผลใหม่อีกครั้ง ซึ่งอาจใช้ได้กับแผลเป็นบางชนิดเท่านั้น และควรทำกับแผลเป็นที่สมบูรณ์เต็มที่แล้ว ไม่ใช่แผลเป็นใหม่ที่เพิ่งเกิดขึ้น

การรักษา: ราชเทวี คลินิกใช้วิธีการรักษาแบบใหม่ล่าสุด คือ Scarless Technique เป็นวิธีการรักษาแผลเป็นนูนชนิดคีลอยด์ที่ได้ผลดี และลดโอกาสการกลับมาเป็นซ้ำใหม่อีก จึงเป็นวิธีรักษาที่ได้ผลดีกว่าวิธีอื่นๆ

ในกรณีของคุณอมรวดี รอยแผลเป็นสีคล้ำขึ้นกว่าเดิมอาจจะเกิดการบอบช้ำจากการถูกกระแทกอย่างแรง แนะนำให้ลองพบและปรึกษากับคุณหมออีกครั้งเพื่อให้คุณหมอตรวจวินิจฉัย ประเมิน และวางแผนการรักษาให้ต่อไปค่ะ

ตอบโดย:ราชเทวีคลินิก| วันที่ 08/04/2555

จาก: 0 คน
VIEWS
4255