ลักษณะอาการของแผลเป็นนูนชนิดคีลอยด์ คือ นูน แดง แข็ง ยืดหยุ่นคล้ายยาง ผิวมัน  มีเส้นเลือดมาเลี้ยง อาจมีอาการเจ็บคันร่วมด้วย รอยแผลมีแนวโน้มที่จะขยายใหญ่มากขึ้นเรื่อยๆ  มักพบบริเวณผิวหนังที่ตึงตัว โดยจะเป็นมากบริเวณไหล่ แขน ใบหู ติ่งหู หน้าอก แนวขากรรไกร เช่น แผลจากการเป็นสิว เจาะหู ปลูกฝี ฉีดวัคซีน แผลผ่าตัดต่างๆ ค่ะ

ราชเทวีคลินิก มีการรักษาแผลเป็นนูนชนิดคีลอยด์หลายวิธีค่ะ

1. ฉีดยา หากรักษาด้วยการฉีดยาเพื่อรักษาคีลอยด์ สามารถเข้ารับบริการได้ทุกสาขา อัตราค่าบริการอยู่ที่ 100 - 1,000 บาท ขึ้นอยู่กับขนาดของคีลอยด์และปริมาณยาที่ใช้ค่ะ

2. Scarless Technique ปัจจุบันนี้ราชเทวีคลินิกมีวิธีการรักษาคีลอยด์แบบใหม่ โดยใช้วิธี Scarless Technique เป็นการ Shave หรือใช้ CO2 LASER เป็นการทำลายเนื้อเยื่อผิวที่นูนออกให้เรียบ จากนั้นใช้ Scarless patch with Scarless solution ปิดบนแผลต่อ เพื่อหยุดการสร้างเนื้อเยื่อผิวใหม่บริเวณที่เคยเป็นคีลอยด์ โดยใช้ระยะเวลาในการรักษาประมาณ 1 เดือน หลังรักษาด้วยวิธีนี้พบว่าผิวที่เคยเป็นคีลอยด์มีโอกาสน้อยมากที่จะกลับมาเป็นซ้ำอีก อัตราค่าบริการเริ่มต้นที่ 9,000.- ขณะนี้มีให้บริการที่ Aesthetic Scar Center ศูนย์ดูแลรักษารอยแผลเป็นต่างๆ ทุกชนิด ซึ่งศูนย์นี้อยู่ในราชเทวีคลินิก สาขาเพลินจิต

3. SM  Technique  หรือ Scar Modulation Technique เป็นเทคนิคการปรับผิวและฟื้นฟูสภาพผิวให้เรียน เนียน  ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ และเพิ่มความแข็งแรงให้แก่เซลล์ผิว

ถ้าแผลไม่นูนมากอาจใช้เพียงการฉีดยาให้ยุบ วิธี Scarless Technique ไม่มีข้อห้าม แต่เหมาะกับแผลที่นูนมากๆ หรือใหญ่มากที่รักษาด้วยวิธีฉีดไม่ได้ค่ะ

ข้อแตกต่างระหว่างวิธีการฉีดยา กับ Scarless Technique คือ การฉีดยาจะช่วยให้รอยแผลเป็นคีลอยด์ยุบลงระยะหนึ่งแล้วแผลเป็นคีลอยด์จะกลับมานูนขึ้นอีก จึงต้องกลับมาฉีดซ้ำอีกเรื่อยๆ เหมาะกับแผลเป็นคีลอยด์ที่มีขนาดไม่ใหญ่มาก ส่วน Scarless Technique เป็นวิธีที่รักษาแผลเป็นคีลอยด์ที่หลังรักษาแล้วพบว่าโอกาสที่จะกลับมาเป็นซ้ำน้อยมากค่ะ  

ส่วนจะใช้วิธีใหนนั้น แนะนำให้มาพบแพทย์เพื่อตรวจ ประเมิน และวางแผนการรักษาที่จำเป็นและเหมาะสมให้แล้วค่อยตัดสินใจรักษาได้ค่ะ  และหากคุณชลิตา สะดวกที่สาขาพระราม2 แนะนำให้พบคุณหมอวีระชัย อรุณรักถาวร ทุกวันจันทร์ เวลา 12.30 - 19.30 น. ค่ะ