เป็นสิวบริเวณหน้าผาก
ปกติดิฉันจะเป็นสิวเฉพาะบริเวณหน้าผากเท่านั้นค่ะส่วนอื่นแทบจะไม่มีเลยค่ะและสิวที่เป็นก็มักจะเป็นแค่ 2 - 3 เม็ดในแต่ละเดือน ซึ่งส่วนมากคิดว่าน่าจะเป็นสิวอุดตันหรือหัวดำนี่แหละค่ะและมันจะปูดขึ้นมาทำให้เป็นรอยบวมแดงและถ้าบีบหัวสิวออกมาหัวสิวจะแข็งและเยอะมากบางครั้งบีบออกไม่หมดมันก็จะบวมแดงและปูดขึ้นมาอีกและหลังจากการบีบมันก็จะมีรอยแผลเป็นรอยดำค่ะและพอสิวเก่ายุบสิวใหม่ก็เริ่มจะปูดขึ้นมาอีกค่ะทำให้มีรอยด่างดำจากสิวและสิวปูดบริเวณหน้าผากอยากทราบว่าจะรักษาอย่างไร และมียารักษาอะไรแนะนำบ้างค่ะ แนะนำได้เลยค่ะถ้ายาตัวไหนที่ใช้ดีเห็นผลภายใน 1 อาทิตย์ หรือ 1 เดือน เพราะรู้สึกเสียบุคลิคมากค่ะเวลาสิวขึ้นที่หน้าผาก เพราะส่วนอื่นไม่มีสิวเลยค่ะ และใช้ยาแต้มสิวต่างๆตามโฆษณาก็ไม่ได้ผลเลยค่ะ (อยากให้สิวยุบนะค่ะจะได้ไม่ต้องบีบและต้องการรักษาแผลเป็นจากสิวค่ะ) เช่น สมูทอี พรีมโนบุ แพน ก็ไม่ยุบสักที ขั้นแรกคือต้องการตัวยาให้สิวยุบ และไม่เกิดมาเป็นใหม่นะค่ะ
คำถามที่:Q12662| จากคุณมันตรา| 18/10/2554 00:00 น.

อันดับแรกเลยก็คือ ห้ามบีบ แกะ  เพราะจะทำให้สิวอุดตันกลายเป็นสิวอักเสบ และการบีบ แกะ จะทำให้รอยดำรอยแดงเยอะและอยู่นานมากขึ้น การดูแลมีได้หลายวิธีตั้งแต่

1. ผลิตภัณฑ์สำหรับทา

     · สารช่วยละลายคอมีโดน จะช่วยลดการอุดตันของสิว ทำให้โอกาสเกิดสิวอุดตันใหม่น้อยลง

     · ยาปฏิชีวนะ จะช่วยในการลดจำนวนเชื้อแบคทีเรีย ลดการอักเสบ

2. ยารับประทาน โดยทั่วไปจะใช้ยาเพื่อลดการอักเสบของสิว โดยจะใช้ชนิดใดจะขึ้นอยู่กับความรุนแรงของสิวในผู้ป่วยแต่ละราย ในรายที่ไม่ได้ผลหรือมีการอักเสบรุนแรงอาจจะใช้ยาชนิดอื่นได้

3. การทำทรีทเมนท์เสริมการรักษาสิว ช่วยทำให้สิวยุบได้เร็วขึ้น และรอยดำรอยแดงจางได้เร็วขึ้น

4. การทำเลเซอร์กำจัดสิวอุดตัน

ทั้งนี้ในแต่ละกลุ่มก็จะมีตัวยาหรือสารที่แตกต่างกันไป การเลือกใช้นั้นต้องดูสภาพผิวหน้าของผู้ป่วยแต่ละราย ระยะของสิว ประกอบด้วยค่ะ

ส่วนรอยแดง รอยดำจากสิวอักเสบ เป็นอาการหลังมีการอักเสบของสิว ผิวหนังบริเวณนั้นมักจะมีสีที่เปลี่ยนแปลงไป ช่วงแรกอาจเป็นรอยแดงๆ ช้ำๆ ต่อมาสีอาจจะเข้มขึ้น เห็นเป็นสีน้ำตาลจนถึงเกือบดำ โดยมากจะพบในผู้ที่มีผิวคล้ำง่ายกว่า ซึ่งสร้างปัญหาด้านความสวยงามให้ผู้ที่เป็นสิวค่อนข้างมาก โดยทั่วๆ ไปสามารถหายเองได้แต่ใช้เวลาหลายเดือนในการจางหายไป แต่หากไม่ทันใจก็อาจจะใช้ยาทาลดรอยดำได้ค่ะ

ตอบโดย:พญ. อรณิชา ประภาพันธ์| วันที่ 19/10/2554

จาก: 0 คน
VIEWS
2763