ดังนั้นคนแต่ละคนจะมีสิวมากน้อยไม่เท่ากัน ส่วนปัจจัยภายนอกอื่นๆ เช่น สบู่บางชนิด เหงื่อออกมาก ความอับชื้น จะทำให้สิวเป็นมากขึ้นได้ค่ะ แต่ไม่ว่าจะเป็นสิวแบบไหนก็รักษาได้ทั้งนั้น แต่สิวที่หลังมักจะหายช้ากว่าสิวบนใบหน้าค่ะ
การรักษาสิวที่หลัง คงต้องเริ่มจากการหลีกเลี่ยงการระคายเคืองที่ผิวหนัง คือ ไม่ควรขัด ถู เพราะสิวไม่ได้เกิดจากความสกปรกน่ะค่ะ
ส่วนการรักษามีได้ตั้งแต่การทายาเพื่อละลายหัวสิว การรับประทานยาปฏิชีวนะ เพื่อลดการอักเสบของสิว แต่การจะเลือกใช้วิธีใดนั้นคงต้องขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรคด้วยค่ะ ลองปรึกษาคุณหมอดูนะคะ
สิวที่หลังมักขึ้นมาจากเหงื่อออกและแห้งไปกับตัว ควรอาบน้ำทันทีหลังเหงื่อออกแล้วเช็ดตัวให้แห้ง เปลี่ยนเสื้อที่แห้งสะอาด จะช่วยได้ดี แต่ถ้าทำทำไม่ได้ก็สามารถใช้ยากินที่เป็นกลุ่มกรดวิตามิน เอ สิวจะแห้งลงไปได้ภายใน 2-4 สัปดาห์ และมียาลักษณะคล้ายแป้งน้ำสำหรับทาเพื่อรักษาสิวที่หลัง ยาช่วยให้สิวหลุดง่าย แต่ต้องใช้เวลา ใช้ยาต่อเนื่อง 4-6 สัปดาห์
ส่วนแผลเป็นก็จะมียาทาลดรอยดำ, ทำ Treatment รวมทั้งทำหัตถการ (เลเซอร์ต่างๆ) และค่าใช้จ่ายขึ้นอยู่กับวิธีในการรักษาค่ะ แนะนำให้ลองปรึกษาคุณหมอเพิ่มเติมเพื่อให้คุณหมอประเมินและวางแผนการรักษาให้จะดีกว่าค่ะ
การทำ LASER รอยดำสิวนั้นขึ้นกับชนิดของ LASER และสภาพผิวของคนไข้ โดยถ้าสภาพผิวของคนไข้แห้งบางเกินไป LASER ก็จะมีผลมาก อาจทำให้เกิดสะเก็ดเล็กๆ ขึ้นมาได้ โดยถ้าคนไข้ไม่แกะสะเก็ดออก ปล่อยให้หลุดเองตามธรรมชาติ (3-5 วัน) รอยดำก็จะจางลงตามลำดับ โดยควรรับบริการอย่างต่อเนื่องทุกๆ 2 สัปดาห์ ประมาณ 5 - 6 ครั้ง เพื่อผลการรักษาที่ชัดเจน รอยดำจะจางลงค่ะ
ส่วนอัตราค่าบริการสอบถามจากแพทย์และเจ้าหน้าที่ประจำคลินิกได้เลยค่ะ
p >