สิวผด หรือ สิวเทียม รักษาโดยการทายาและรับประทานยาก็เพียงพอค่ะ อาจเสริมการรักษาโดยการทำทรีทเม้นท์ในกลุ่มรักษาสิวได้ เพื่อช่วยทำให้อาการของสิวผดดีขึ้นค่ะ
ปกติสิวผดถ้าเพิ่งเป็นใหม่ๆ ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงของเม็ดเหล่านี้มากนัก สิวประเภทนี้จะสังเกตว่า ขึ้นเร็วยุบเร็ว บางทีตอนเช้ายุบหายไป ตอนบ่ายโผล่มาใหม่ การใช้ยาทาละลายสิว (อย่างสม่ำเสมอ) สิวก็จะค่อยๆ ราบเรียบหายไป โดยใช้เวลา 1-2 สัปดาห์ แต่ถ้าสิวผดเปลี่ยนแปลง มีเซลล์สะสมทำให้แข็งหรือหนา ก็จะรักษายากและนานขึ้น
สิ่งที่ทำให้สิวผดเปลี่ยนแปลง ได้แก่
1. มีการรบกวนซ้ำ หรือทำให้ระคายเคืองเพิ่มขึ้น เช่น ขัดถู ล้างหน้าแรงๆ เช็ดหน้าแรง ทำให้สิวผดแข็งและหนาขึ้น (สังเกตไหมว่าทำไมคุณหมอถึงห้ามขัดถูหน้าแรงๆ)
2. การรบกวนจากสารชำระล้างที่เป็นด่าง และพวก detergents ซึ่งทำให้เซลล์ส่วนที่หนาๆ ของสิวเทียม ที่เรียกว่า keratin บวมและยิ่งหนามากขึ้น ทำให้ยาละลายออกช้า (สังเกตไหมว่าทำไมคุณหมอถึงแนะนำไม่ให้ใช้โฟม ครีมล้างหน้า เพราะมีด่างและ detergents สูง ส่วนใหญ่ถ้าไม่แนะนำให้ใช้น้ำเปล่า ก็ต้องเป็นสารชำระล้างที่ไม่เป็นด่างและปลอด detergent เช่น TW soap)
3. มีการอุดตันของไขมันที่พลอยระบายออกช้าไปด้วย ไขมันที่จับตัวเป็นคอมีโดนเป็นเม็ดขาวๆ แข็ง ถ้าขนาดใหญ่กว่ารูขุมขนจะหลุดออกยากขึ้น ซึ่งคุณหมอที่รักษาก็จะแนะนำปรับเปลี่ยนการรักษาให้เอง
4. ถ้ามีการอักเสบร่วมด้วย เพราะเชื้อโรคถูกขังไว้ด้วย ก็จะเป็นตุ่มแดงๆ (inflammed aestivalis) ก็อาจจะต้องใช้ยาฆ่าเชื้อร่วม
สิวเทียมหรือสิวผดถ้ามีการเปลี่ยนแปลงก็จะใช้เวลานานหน่อยค่ะกว่ายาจะละลายหรือสลายหัวสิวออก
ส่วนเรื่องรูขุมขุนกว้างนั้น การจะตอบคำถามนี้ได้ คงต้องมาทำความเข้าใจกับธรรมชาติของผิวกันก่อนนะคะ
รูขุมขนกว้าง เป็นลักษณะของผิวหนังที่พบได้บ่อย แต่ไม่ถือว่าเป็นโรคทางผิวหนังหรือก่อให้เกิดอันตราย เพียงแต่อาจจะสร้างปัญหาทางความสวยงามได้
ผิวหนังของคนเราจะมีท่อเปิดออกสู่ผิวหนังอยู่ 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ ท่อเปิดต่อมเหงื่อ และ ท่อเปิดรูขุมขน ซึ่งท่อเปิดชนิดหลังนี้จะเป็นตำแหน่งที่ขนงอกขึ้นมาและเป็นท่อที่ระบายไขมันที่สร้างจากต่อม sebaceous gland ด้วย ท่อรูขุมขนจะมีขนาดโตมากน้อยแตกต่างกันในแต่ละคน ขึ้นอยู่กับ
(1) อายุ เมื่ออายุมากกว่า 20 ปีขึ้นไป รูขุมขนจะมีโอกาสโตมากขึ้นตามธรรมชาติของผิว
(2) ลักษณะผิว เช่น กรณีที่ต่อม sebaceous gland ทำงานผลิตไขมันมาก โอกาสที่รูขุมขนกว้างก็จะมีมากขึ้น เมื่อเทียบกับผู้ที่ต่อม sebaceous gland ทำงานน้อยกว่า
ในความเป็นจริงแล้ว ลักษณะผิวแต่ละแบบได้ถูกกำหนดมาแล้วจากพันธุกรรมของแต่ละคน ในปัจจุบันนี้ยังไม่มีวิธีใดที่จะสามารถลดขนาดรูขุมขนได้อย่างถาวร แต่ก็มีหลายวิธีที่ช่วยบรรเทาปัญหานี้ เช่น
(1) ใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ช่วยเพิ่มระดับ collagen และ elastin ในผิว เช่น กลุ่มวิตามิน C, retinol
(2) ลดปริมาณน้ำมันบนผิวและผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วซึ่งเป็นตัวที่จะอุดตันในรูขุมขนและทำให้รูขุมขนดูกว้างขึ้น ด้วยผลิตภัณฑ์ที่มี alpha hydroxyl acid ( AHA ) เป็นส่วนประกอบ ( การทำ AHA treatment จึงเป็นวิธีหนึ่งในการแก้ไขปัญหารูขุมขนกว้างได้ )
(3) การใช้ผลิตภัณฑ์กลุ่มที่ผสม salicylic acid ซึ่งทำงานคล้ายในกลุ่ม AHA
(4) การใช้ผลิตภัณฑ์กลุ่ม oil control เพื่อควบคุมการผลิตน้ำมันส่วนเกิน
(5) การใช้เครื่องมือที่กระตุ้น collagen และ elastin ใต้ผิว เช่น Nd:YAG LASER , IPL เป็นต้น collagen และ elastin ที่ถูกกระตุ้นให้สร้างเพิ่มขึ้นจะช่วยให้ผิวกระชับขึ้นและส่งผลให้รูขุมขนดูกระชับขึ้นด้วย
การทำ Treatment อย่างสม่ำเสมอ เป็นการช่วยคงสภาพผิวที่ดีหลังการทำ treatment ไว้ แต่การที่รูขุมขนจะกระชับได้มากน้อยหรือยาวนานแค่ไหนนั้น ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก เช่น อายุ, อากาศ หรือสภาพแวดล้อม, การเผชิญกับแสงแดด เป็นต้น
อย่างไรก็ตามแต่ละวิธีก็อาจจะมีข้อบ่งชี้และข้อควรระวังในการใช้ที่แตกต่างกันไปตามสภาพผิวของแต่ละคน ดังนั้น ควรปรึกษาแพทย์เพื่อเลือกวิธีที่เหมาะสมกับคุณจิรัชญา ค่ะ