สิวข้าวสาร (Milia)
พบได้ทั่วไปในคนทุกวัยและพบได้ในเด็กแรกเกิด ส่วนใหญ่จะขึ้นที่บริเวณโหนกแก้ม จมูก รอบดวงตา อาการนี้เกิดขึ้นได้จากการรวมตัวของเซลล์ผิวที่ตายแล้วที่ไม่ยอมหลุดออกไปตามธรรมชาติร่วมกับต่อมไขมันที่ปล่อยไขมันออกมาบนผิวหน้า
Milia หรือ สิวข้าวสาร เป็นซีสต์ที่มีผนังและส่วนประกอบเหมือน epidermal cyst แต่มีขนาดเล็กกว่า โดยมีลักษณะเป็นตุ่มแข็งสีขาวคล้ายสิว ซึ่งอยู่ตื้นและมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1-2 มม. ซีสต์ชนิดนี้พบได้ทุกอายุตั้งแต่ทารกแรกเกิดจนถึงวัยชรา เป็นได้เท่าเทียมกันทั้งผู้หญิงและผู้ชาย พบได้ทั่วทั้งตัว แต่จะพบบ่อยที่บริเวณใบหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่จมูกในทารกแรกเกิด และที่หนังตาและแก้มในเด็กสาว นอกจากนี้ สิวข้าวสาร ยังมักเกิดขึ้นในตำแหน่งที่ผิวหนังเคยถูกทำลายมาก่อน เช่น ในบริเวณที่ผิวหนังเคยเป็นแผลถลอก หรือเกิดขึ้นหลังการขัดหน้า เกิดขึ้นหลังจากได้รับการฉายรังสีหรือตากแดดจนไหม้ หรือหลังจากเป็นโรคผิวหนังที่เป็นตุ่มน้ำพองใส หรือเกิดขึ้นในบริเวณที่เคยทายาสเตียรอยด์อยู่นานๆ ส่วนใหญ่เมื่อผิวหนังมีการสมานแผลภายหลังการที่ผิวถูกทำลายด้วยลักษณะต่างๆ เหล่านี้ ก็อาจมี สิวข้าวสารเกิดขึ้นได้
สาเหตุของการเกิด สิวข้าวสาร
- การใช้เครื่องสำอางที่หนา หนัก หรือผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพต่ำ ที่ไม่เหมาะกับผิว เซลล์ผิวที่ตายแล้วหลุดออกไปไม่ได้
- ตากแดดนานเกินไป มีผลทำให้ผิวหนาขึ้น ทำให้กระบวนการผลัดผิวเป็นไปได้ยาก
- ใช้ผ้าหยาบหนา หรือผ้าปูที่นอนที่เป็นลินินหยาบ ทำให้เกิดการระคายเคืองต่อเด็กทารก มีผลทำให้เกิด สิวข้าวสาร
ปกติแล้วอาการ สิวข้าวสาร ในเด็กทารกนั้นจะหายไปได้เองภายในสัปดาห์แรก ๆ ของการคลอด แต่ในผู้ใหญ่แล้ว ปัญหานี้อาจกินเวลายาวนานหรืออาจเป็นไปเรื่อย ๆ ไม่สิ้นสุด การรักษาก็สามารถช่วยบรรเทาให้ผิวดูดีขึ้นได้บ้าง
อาการ สิวข้าวสาร
สิวข้าวสาร จะมีลักษณะเป็นสีขาวมุก เป็นตุ่มนูนบนผิว ส่วนใหญ่มักเป็นบริเวณโหนกแก้ม จมูก คาง รอบดวงตา อีกทั้งยังสามารถเกิดขึ้นได้ทั่วไปตามร่างกาย
วิธีการรักษา สิวข้าวสาร
- ในเด็ก ๆ นั้นไม่มีความจำเป็นต้องรักษาโดยทางการแพทย์ เพราะจะสามารถหายไปได้เองภายในไม่กี่สัปดาห์ โดยไม่ทิ้งรอยแผลใด ๆ
- ในผู้ใหญ่นั้นจะกำจัดตุ่มขาวนี้ออกไปได้ด้วยการกดออก แต่จริง ๆ แล้วก็ไม่ได้จำเป็น
- หากว่าเป็นผู้ที่มีแนวโน้มว่าจะเป็น สิวข้าวสาร ก็ควรที่จะใช้ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิวเป็นประจำ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่จะเกิดขึ้น ดังกล่าวมาแล้ว
- การลอกผิวหน้าโดยใช้ AHA ความเข้มข้นสูง ก็สามารถช่วยกำจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดออกได้
ผื่นไขมันที่เปลือกตา (Xanthelasma)
มีลักษณะเป็นตุ่ม หรือก้อนนูนสีเหลืองมีขอบเขตชัดเจน มีขนาดตั้งแต่ 2-3 0มิลลิเมตร ไม่ใช่เนื้อร้าย มีทั้งนุ่มและแข็ง ก้อนนี้มักจะโตขึ้นอย่างช้าๆ ซึ่งเกิดจากการสะสมของไขมันในชั้นผิวหนังทำให้เห็นเป็นปื้นที่ผิวหนัง พบในช่วงอายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป ในคนที่อายุต่ำกว่า 30 ปีจะพบได้น้อย โดยพบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย แต่ถ้าพบในคนอายุน้อยหรือพบเป็นหลายคนในครอบครัว อาจมีความสัมพันธ์กับความผิดปกติของระดับไขมันในเลือด
ตำแหน่งที่พบ
บริเวณที่พบ เช่น ที่เปลือกตาบนและล่าง (Xanthelasma palpebrum) แม้จะไม่มีอาการเจ็บปวดหรือมีอันตราย แต่ก็มีผลในด้านความสวยความงาม
การรักษา
ทำลายออกด้วยกรด ความเย็น หรือเครื่องมืออื่นๆ เช่น เครื่องจี้ไฟฟ้า เครื่องเลเซอร์ ในการรักษาโดยการเอาก้อนเนื้อออก ต้องทำโดยผู้เชี่ยวชาญเพราะอาจทำให้เกิดแผลเป็นได้ แม้จะเอาก้อนเนื้อออกแล้วพบว่าสามารถกลับมาเป็นซ้ำได้อีก แต่ในรายที่มีไขมันในเลือดสูง ต้องรักษาควบคู่ไปด้วย เช่น การรับประทานยา การควบคุมอาหาร
ค่าใช้จ่ายสำหรับการกำจัดปัญหาดังกล่าวด้วยเครื่องเลเซอร์ เริ่มต้นที่จุดละ 300 บาท เชิญรับบริการได้ที่ราชเทวีคลินิกทุกสาขา