ไม่ทราบว่าแผลเป็นที่คุณเพชรรัตน์เป็นอยู่นั้นเป็นแผลเป็นชนิดใด (แผลเป็นหลุม / แผลเป็นนูน / คีลอยด์)
หากเป็นแผลเป็นหลุม การรักษาแผลเป็นหลุมมีหลายวิธีค่ะ ก่อนอื่นเราจะพิจารณาจากอายุของแผลเป็น ถ้าเป็นแผลใหม่ๆ การใช้กรดบางชนิดกระตุ้นให้มีการสร้างเนื้อเยื่อใหม่ เช่น TCA , กรดวิตามิน A หรือ AHA ก็ได้ผลดีค่ะ
การรักษารอยหลุม บางครั้งถ้ารอยหลุมลึกจำเป็นที่จะใช้การรักษาหลายๆ วิธีร่วมกันค่ะ ได้แก่ การทายาช่วยการกระตุ้นให้หลุมตื้นขึ้น, แต้มน้ำยา TCA , การทำ LASER ได้แก่ Nd:YAG LASER และ FRACTIONAL LASER รักษาหลุมสิวและรอยแผลเป็น ด้วยเครื่องมือ 3 ชนิดนี้ค่ะ
1. Nd:YAG เป็น LASER ที่ให้พลังงานคลื่นความร้อนไปทำปฎิกิริยากับชั้นใต้ผิวหนัง dermis ในตำแหน่งที่ช่วยกระตุ้นการสร้าง collagen และ elastin ทำให้หลุมสิวตื้นได้ ที่ใช้เวลานานและต้องทำหลาย...ครั้ง เพราะต้องกระตุ้นอย่างสม่ำเสมอ และใช้เวลาเห็นผลประมาณ 2 -3 เดือนในการกระตุ้นการสร้าง
กรณีที่เป็นแผลเป็นใหม่ๆ หลุมจะตื้นขึ้นมาเร็ว ถ้าแผลเป็นนานแล้วจะใช้เวลานานกว่ามากและหลายครั้งกว่าจะเรียบ หลังทำ LASER ควรทาครีมบำรุง ครีมกันแดดมากๆ ที่รู้สึกหน้าคล้ำอาจเป็นเพราะรังสีไปโดนเส้นขน ทำให้มีการไหม้เล็กน้อยบริเวณผิวชั้นนอก ประมาณ 1 สัปดาห์ก็ลอกหลุดหมดแล้วจะดีขึ้นค่ะ
2. FRACTIONAL LASER เป็น Abrative LASER อาศัยหลักการให้ผิวชั้นบนมีการบาดเจ็บแล้วไปกระตุ้นการสร้าง Collagen ทำให้หลุมเต็มเร็วขึ้น เหมาะกับหลุมสิว แต่จะมีสะเก็ดบนหน้าประมาณ 5 - 7 วันค่ะ แต่ข้อเสีย คือ หลังยิงจะมีรอยแดงและการตกสะเก็ดเล็กๆ ให้เห็นค่ะ
3. Fine Scan 1550 เป็นการปล่อยคลื่นแสงลงไปบริเวณใต้ผิวหนังในระดับความลึกพอดีกับตำแหน่งที่ต้องการสร้างเซลล์ผิวใหม่ซึ่งช่วยแปรสภาพเซลล์ผิวเก่าให้หลุดลอกออกไปภายใน 1 สัปดาห์ โดยมีการสร้างเซลล์ผิวใหม่ (Resurfacing) ขึ้นมาทดแทนอย่างเห็นได้ชัด เครื่องมือนี้ มีให้บริการเฉพาะที่สาขาเพลินจิตค่ะ
หากเป็นแผลเป็นนูน ก็มีวิธีรักษาหลายวิธี ตั้งแต่ฉีดยา, Scarless Technique, SR & SM Technique ซึ่งอัตราค่าบริการขึ้นอยู่กับวิธีที่ใช้ค่ะ ปัจจุบันนี้ราชเทวีคลินิกเปิด Aesthetic Scar Center ที่สาขาเพลินจิต เป็นศูนย์ดูแลรักษารอยแผลเป็นทุกชนิด ด้วยเทคนิคการรักษาแบบผสมผสาน (ทั้ง SR / SM / Scarless Technique ) ลองปรึกษาแพทย์ดูก่อนนะคะเพื่อให้แพทย์พิจารณาใช้วิธีหรือเครื่องมือที่เหมาะสมกับรอยแผลเป็นของคุณให้ค่ะ