ผมร่วงและผมร่วง
อายุ 23 ปี มีอาการผมร่วง ผมบาง มีอาการผมร่วงมาสัก 3-4 ปีแล้ว แต่ร่วงละวัน 5-10 เส้น คิดว่าเป็นเรื่องปกติ แต่คนทักผมบาง และสังเกตผมข้างหน้าเริ่มบางแล้ว คิดค่ารักษายังไง และใช้เวลานานไหมกว่าผมจะกลับมาดก ตอบด้วย
คำถามที่:Q10927| จากคุณNarnniez| 28/01/2554 00:00 น.

สาเหตุผมร่วงมีหลายสาเหตุ ตั้งแต่เป็นเพราะวงจรผมที่มันจะหลุดร่วงอยู่แล้ว แต่มีปัจจัยอื่นๆ มากระตุ้นทำให้หลุดร่วงมากกว่าปกติ เช่น ไข้, ควมเจ็บป่วย, ความเครียด, การได้รับยาบางประเภท เช่น ยาคุมกำเนิด ยาละลายลิ่มเลือด ยาควบคุมความดัน นอกจากนี้ผมร่วงแบบกรรมพันธุ์ ก็อาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้หลุดร่วงเพราะเป็นลักษณะผมร่วงง่าย โดยไม่มีแผลใดๆ เกิดขึ้น ควรมาปรึกษาแพทย์เพื่อทำการตรวจวินิจฉัยและรักษาต่อไปค่ะ

ตอบโดย:พญ. เจนใจ ชื่นชูจิตต์| วันที่ 31/01/2554

ผมร่วงเกิดจากหลายสาเหตุ โรคบางอย่างทำให้ผมร่วงก็มี แต่กว่า 90% ของผมร่วง ผมบาง เกิดจากรรมพันธุ์ การที่คุณพ่อศีรษะล้าน ลูกอาจจะเป็นหรือไม่เป็นก็ได้ เพราะลักษณะของลูกนั้นได้รับการถ่ายทอดมาจากทั้งคุณพ่อและคุณแม่ และยีนส์ที่ถ่ายทอดลักษณะผมบางก็มีหลายตัวครับ

ดังนั้นเรื่องจึงไม่ตรงไปตรงมาแบบพ่อเป็นลูกก็เป็นหรือ พ่อแม่เป็นลูกก็ต้องไม่เป็น แนวทางในการรักษานั้น ในตอนแรกต้องทำใจก่อน เพราะถ้าทำใจได้ก็ไม่ต้องรักษาเพราะเป็นภาวะธรรมชาติ และยาที่ใช้ในการรักษานั้นทำให้ผมขึ้นหนาได้จริงแต่ไม่อยู่ถาวร ผมจะหนาตราบที่ยังใช้ยาอยู่ เมื่อหยุดยาผมก็จะร่วงไปดังเดิมครับ

ตอบโดย:นพ. วัชรินทร์ สถิตธรรมนิตย์| วันที่ 31/01/2554

อาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินชนิดหนึ่งที่เรียกว่า วิตามิน H หรือ โคเอนไซม์ R หรือ ไบโอติน (BIOTIN) ช่วยทำให้เส้นผมแข็งแรงขึ้นค่ะ โดยธรรมชาติเราได้ไบโอตินจากอาหารที่รับประทาน เช่น ไข่แดง นม เนย ถั่ว หรือเครื่องใน เช่น ตับไต

ในปัจจุบันมี ไบโอติน ชนิดรับประทานให้เสร็จสรรพ สะดวกมากสำหรับผู้ที่ต้องการเสริมสร้างความแข็งแรงและบำรุงผมและเล็บ (ในท้องตลาดมีขนาดบรรจุ 150 และ 600 ไมโครกรัม /แคปซูล ขณะที่มีปัญหาผมร่วงไม่แข็งแรง ควรรับประทาน 1,200-2,400 ไมโครกรัม/วัน มักจะดีขึ้นใน 3-4 สัปดาห์

วิธีช่วยดูแลผม

1. เสริมสร้างความแข็งแรงให้กับรากผม
- ดูแลจากภายใน คือ รับประทานอาหารให้เพียงพอ โดยเฉพาะในกลุ่มโปรตีน และวิตามินที่มีคุณประโยชน์ต่อผม ดังได้กล่าวในข้อ 2
- ดูแลจากภายนอก โดยใช้แชมพู , ครีมนวด หรือคอนดิชั่นเนอร์หลังสระผม ตลอดจนการทำทรีทเมนต์ผมต่างๆ ซึ่งผลิตภัณฑ์กลุ่มบำรุงผมส่วนใหญ่จะผสมวิตามินหรือสารที่ช่วยให้ผมแข็งแรงขึ้น หรือบางคนอาจหวนคืนสู่ธรรมชาติ ก็อาจชอบหมักผมกับไข่แดง หรือหมักเบียร์ ก็มีค่ะ (ในไข่แดง และเบียร์ อุดมด้วยวิตามินไบโอติน แต่วิธีนี้หลายๆ คนมองว่ายุ่งยากไปนิด ทานวิตามินไบโอตินสะดวกและง่ายกว่าค่ะ)
2. หลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีที่ทำลายเส้นผมหรือการดูแลผมที่ไม่ถูกต้อง
- การใช้สารเคมีกับผม เช่น ย้อม , โกรก , กัดสี , ยืด และดัดผม หากใช้บ่อยเกินไป หรือนานเกินไป จะทำให้ผมอ่อนแอและแตกหักง่าย หรืออาจทำให้เกิดอาการแพ้ และหนังศีรษะอักเสบได้
- ทรงผมที่รวบตึงแน่นๆ เช่น ทรงหางม้า หรือผูกเปีย ที่ดึงรั้งมากเกินไป หากทำนานๆ เป็นประจำพบว่าผมจะร่วงบางลงได้โดยเฉพาะตำแหน่งด้านข้างของหนังศีรษะ
- ความเครียด , ภาวะเจ็บไข้ได้ป่วย , การใช้ยาบางประเภท ก็มีส่วนทำให้ผมร่วงได้ค่ะ
3. หากพบปัญหาผิดปกติของเส้นผม หรือหนังศีรษะเกิดขึ้นแล้ว แนะนำปรึกษาแพทย์ดูอาการค่ะ เนื่องจากอาการผมร่วงอาจมีสาเหตุจากโรคต่างๆ ได้มากมาย ควรจะให้แพทย์รักษาให้ตรงกับสาเหตุจะดีที่สุดค่ะ
ตอบโดย:ราชเทวีคลินิก| วันที่ 31/01/2554

อัตราค่าบริการขึ้นอยู่กับยาที่คุณได้รับค่ะ ซึ่งราชเทวีคลินิกมียาสำหรับรักษาปัญหาเส้นผมหลายตัวด้วยกัน หากเป็นยาทามีราคาตั้งแต่ 170 - 540 บาท ยารับประทานก็มีตั้งแต่เม็ดละ 12 - 50 บาท ค่ะ ลองปรึกษาคุณหมอดูก่อนเพื่อให้คุณหมอจ่ายยาที่จำเป็นและเหมาะสมกับคุณให้ค่ะ

ตอบโดย:ราชเทวีคลินิก| วันที่ 31/01/2554

จาก: 0 คน
VIEWS
3376