กระในที่นี้คงหมายถึง กระ (FRECKLES) เพราะจริงๆ มีกระหลายชนิด นอกจากกระ (FRECKLES) ได้แก่ กระเนื้อ (SEBORRHEIC KERATOSIS) มีลักษณะเป็นติ่งเนื้อสีน้ำตาล, กระลึก (NFZ) จุดสีคล้ำๆ บริเวณโหนกแก้มทั้งสองข้าง
กระ (FRECKLES) คือ จุดสีน้ำตาลอ่อนหรือเข้ม (ไม่คล้ำ) บนใบหน้า มักพบที่แก้ม, จมูก จุดสีน้ำตาลที่เห็นนั้นเกิดจากเซลส์สร้างเม็ดสี (MELANOCYTE) บริเวณนั้นมีการสร้างเม็ดสี (MELANIN) ออกมามากผิดปกติ
ปัจจัยที่ทำให้เกิดกระได้แก่ แสง UV (อุลตร้าไวโอเลต) สามารถกระตุ้นเซลส์สร้างเม็ดสีให้ทำงานมากขึ้น, ฮอร์โมนจะทำให้เซลส์สร้างสีทำงานผิดปกติ ซึ่งอาจเกิดจากการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนภายในร่างกาย เช่น การตั้งครรภ์ , วัยหมดประจำเดือน หรือได้รับฮอร์โมนจากภายนอกร่างกาย เช่น การรับประทานยาคุมกำเนิด , การใช้เครื่องสำอางบางชนิดที่มีฮอร์โมนผสมอยู่ อีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดกระได้คือ มีประวัติในครอบครัวหรือกรรมพันธุ์นั่นเอง
การรักษากระ มีหลายวิธี
1. การลอกโดยน้ำยา TRICHLORACITIC ACID (TCA) โดยแพทย์เป็นผู้ทำการรักษาให้ อาจจะต้องทำหลายครั้ง
2. การลอกกระโดย LASER ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายแพง
3. การใช้ยาที่มีฤทธิ์ยับยั้งการสร้างเม็ดสี โดยไม่ทำลายเซลส์สร้างสี
ซึ่งในแต่ละวิธีนั้น กระก็จะจางลงได้ แต่จะกลับมาเป็นใหม่ได้อีก ถ้าไปตากแดดหรือโดนความร้อน ฉะนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงแสงแดดและใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF ป้องกันแสงแดดสูง ทาเป็นประจำทุกๆวัน ควรหลีกเลี่ยงการได้รับฮอร์โมน เช่น ยาคุมกำเนิด และเครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของฮอร์โมน หรือ สเตียรอยด์
ตอบโดย:พญ. นิจวรรณ เนียมประดิษฐ์|
วันที่ 18/06/2544