ผื่นที่ไม่ใช่ลมพิษ
ผื่นแดง ลูบดูจะเป็นลักษณะคล้ายลมพิษ แต่...ไม่ใช่ลมพิษค่ะ เพราะลูบดูจะมีลักษณะเป็นเม็ดเล็กๆ (มาก) ขึ้นถี่จนเป็นปื้น คันมาก

ตอนเริ่มเป็นเกิดจากโดนยุงกัด (แพ้ยุงอยู่แล้วและโดนกัดทุกวัน) และเนื่องจากโดนยุงกัดและคันก็เลยเกาค่ะ พอยิ่งเกายิ่งมันยิ่งคันก็ยิ่งเกา...เกาไปเกามาเลยขึ้นผื่นที่ว่า ผื่นเป็นที่ขาทั้ง 2 ข้าง ตอนแรกที่เกานั้น..ข้างขวาจะเป็นมากกว่าข้างซ้าย แต่อยู่ดีๆ ข้างขวาก็ไม่ลาม กลับกลายเป็นข้างซ้ายลามใหญ่โต จากผื่นกว้างประมาณ 5 ซม. (ไม่ใช่วงกลม แต่เป็นผื่นตามลักษณะของการเกา คือ เกามากผื่นก็ใหญ่มากค่ะ)

พอทีนี้มันคันไงคะ ก็เลยเกาเลยลามไปใหญ่เลย ตอนนี้จะครึ่งขาด้านล่างแล้วค่ะ ทายาก็ไม่หาย ตอนแรกทาขี้ผึ้งเบอร์ 28 ยิ่งทายิ่งคันยิ่งเป็น แล้วก็มาทายาที่แก้กลากเกลื้อน Nizoral Cream Ketoconazole 5 g. แต่ก็ไม่หาย คันมากค่ะ อยากทราบว่าเป็นโรคผิวหนังอะไรกันแน่คะ

ป.ล. แต่คุณแม่บอกให้เอาเสลดพังพอนมาบดผสมกับเหล้าขาวแล้วทา ก็ค่อยยังชั่วขึ้นนิดหน่อย (เพราะเพิ่งทาไปวันแรก) แต่ก็ยังอยากทราบว่ามันคือโรคอะไร แล้วเกิดจากอะไร จะรักษาให้หายได้อย่างไร จะกลับมาเป็นอีกมั๊ย

อีกอย่างตามตัวตอนนี้รอยแผลด่างดำที่เกิดจากยุงเต็มไปหมดเลยค่ะ เยอะมากจริงๆ ดูน่ารังเกียจมากๆ ตามแขน ขา ดูแล้วเหมือนคนสกปรก จะฉีดโปเคนรักษาอาการแพ้ยุงได้หรือไม่คะ คุณแม่เคยพาไปฉีดตอนเด็กๆ รู้สึกดีมากๆ โดนยุงกัดไม่ค่อยคันเลยค่ะ เป็นคนที่แพ้ยุงมากๆ ถึงที่สุด เวลาโดนยุงกัด จะเป็นผื่นบวมคล้ายลมพิษ คันมากๆๆๆ ด้วยค่ะ และถึงแม้ไม่เกาพอผ่านไปมันจะกลายเป็นตุ่มใสและแตก เป็นแผลและเป็นรอยดำในที่สุดค่ะ

เคยโดนยุงกัดและเน่าทั้งตัวเป็นน้ำเหลืองและเป็นหนองจนเป็นไข้เลยค่ะ อยากทราบว่าจะรักษาอย่างไรดี ฉีดโปเคนดีมั้ยคะ ขอบคุณค่ะ

คำถามที่:Q1042| จากคุณsirizin| 22/02/2549 16:00 น.
ผื่นที่อธิบายมาข้างต้นนั้น เป็นผื่นผิวหนังอักเสบเรื้อรังที่เกิดจากการเกาการถูค่ะ (ซึ่งศัพท์ทางการแพทย์เราเรียกว่า Lichen simplex chronious) อาจเกิดตามหลังจากการอักเสบคันจากสาเหตุใดๆ ก็แล้วแต่ ซึ่งตามหลังการถูกแมลง, ยุงกัดเป็นสาเหตุที่พบได้บ่อย ถ้าไม่ได้รับการรักษา หรือ รักษาไม่ตรงกับโรค และพฤติกรรมการเกา , ถูมากๆ ก็ทำให้เกิดปัญหานี้ได้ค่ะ

สาเหตุไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อรา เพราะฉะนั้นการใช้ Nizoral cream จึงไม่ช่วยและอาจลุกลามได้ค่ะ

แนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อจะได้รับการรักษาที่ถูกต้อง เนื่องจากอาการนี้สามารถดีขึ้นได้โดยใช้เวลาไม่นาน แต่อย่างไรก็ตามจะต้องหยุดการเกา การถู โดยเฉพาะบริเวณผื่นคัน , หลีกเลี่ยงการใช้น้ำอุ่น , สบู่ถูบริเวณที่เป็นผื่น เนื่องจากภาวะผิวแห้งจะทำให้มีอาการคันมากขึ้นได้ค่ะ

ตอบโดย:ราชเทวีคลินิก| วันที่ 28/02/2549

จาก: 2 คน
VIEWS
26359