1. Roaccutane เป็นยารักษาสิวที่ส่วนใหญ่คนไข้รู้จักกันดีในนามของ กรดวิตามิน เอ
หรือในทางการแพทย์ คือ 13 -CIS isotretinoin
กลไกในการทำงาน เชื่อกันว่า ยับยั้งการทำงานของต่อมไขมัน ไม่ให้ขับไขมันออกมาเหมือนปกติ ยับยั้งการเกิดคอมีโดน จึงช่วยป้องกันการเกิดรอยแผลเป็นได้
ยาตัวนี้ใช้รักษาในรายที่เป็นสิวชนิดรุนแรง เช่น สิวอักเสบเม็ดใหญ่คล้ายซีสต์ ในรายที่เป็นสิวที่ดื้อต่อการรักษา รูขุมขนอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียบางชนิด
ปริมาณยาที่ให้ปกติอยู่ระหว่าง 0.1-1.0 mg./kg/วัน เป็นเวลาประมาณ 16 สัปดาห์
ส่วนใหญ่ในการรักษาสิวนั้น ผู้ป่วยต้องทานยานี้ติดต่อกันให้ได้ปริมาณยารวมต่อหนึ่งคอร์สของ
การรักษา 120 mg. / น้ำหนักตัว 1 กก. โดยการทานยานี้ต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์ ในผู้ป่วยบางรายเมื่อทานไป 1-2 สัปดาห์ สิวอาจเห่อเป็นมากขึ้นชั่วคราว แล้วค่อยๆ ยุบลงเมื่อทานยาต่อไปนาน 3-4 สัปดาห์
ข้อห้ามในการใช้ยานี้ คือ หญิงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี และพวกที่
แพ้สารพาราเบน ทั้งนี้ผู้ป่วยหญิงที่ทานยานี้ ควรหยุดยาเป็นเวลา 3 เดือน ก่อนจะตั้งครรภ์ เนื่องจากยาตัวนี้อาจทำให้ทารกพิการได้
ผลข้างเคียงของยาที่พบได้บ่อยคือ ผิวแห้ง ปากแห้ง ตาแห้ง นอกจากนั้นที่อาจพบได้บ้าง
เช่น ปวดข้อ ไขมันในเลือดบางตัวอาจสูงกว่าปกติเล็กน้อย ผมร่วง
การทานยาตัวนี้ให้ได้ผลดี ควรทานหลังอาหารทันที ทานให้เพียงพอตามปริมาณที่แพทย์แนะนำ และระยะเวลาที่สมควร
2. ไตเป็นที่กรองของเสียออกจากร่างกาย ไม่ใช่แต่เฉพาะยาเท่านั้นที่ไตต้องกรองส่วนที่ไม่ต้องการออกมา ดังนั้นไตจึงต้องทำงานอยู่แล้วเป็นปกติ แต่อาจต้องขับของเสียออกมากขึ้นค่ะ
ตอบโดย:พญ. นันทิรัตน์ รุ่งศักดิ์แสงมณี|
วันที่ 09/11/2544