รักษาแผลเป็นนูน คีลอยด์ (Keloid)
วันที่ 01 ก.ย. 2561
| โดย
ราชเทวีคลินิก
แผลเป็น หลุมสิว คีลอยด์ (Keloid) หากเกิดขึ้นกับใครไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อความสวยความงามเท่านั้น แต่ยังสร้างความไม่มั่นใจให้กับคนที่เป็น หลายคนมีอาการคัน และเจ็บร่วมด้วย ราชเทวีคลินิกมีวิธีการรักษาแผลเป็นที่เห็นผลจริง เพื่อลดรอยแผลเป็นที่ปูดนูนบนผิว ด้วยวิธีที่เรียกว่า Scarless Technique
แผลเป็นนูนชนิด คีลอยด์ (Keloid) คือ แผลเป็นที่มีลักษณะนูนและแดง แต่มีความผิดปกติเมื่อร่างกายมีบาดแผล ผิวก็จะมีการสร้างเนื้อเยื่อซ่อมแซมที่มากเกินไป ทำให้เกิดการขยายตัวกว้างขึ้นเข้าสู่เนื้อเยื่อรอบๆ รอยโรค ขนาดของแผลจะกว้างกว่าแผลเดิมตอนเริ่มต้น และมีแนวโน้มที่จะขยายขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ
คีลอยด์เมื่อเกิดขึ้นกับใคร ไม่ใช่จะเป็นเพียงอุปสรรคต่อความสวยความงามเท่านั้น แต่ยังสร้างความไม่มั่นใจให้กับทุกคนที่เป็นอีกด้วย หลายคนมีอาการคัน เจ็บร่วมด้วย
เพศ วัย ที่มักพบได้บ่อย
- ผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย
- ผู้ใหญ่มากกว่าเด็ก (ในวัยรุ่นและวัยเจริญพันธุ์จะมีโอกาสเกิดแผลเป็นได้บ่อยกว่าในวัยอื่นๆ)
- คนผิวคล้ำจะมีโอกาสเกิดแผลเป็นได้บ่อยและรุนแรงกว่าคนผิวขาว
- ผู้ที่มีประวัติการเกิดแผลเป็นและมีประวัติของครอบครัวมีแผลเป็น จะมีโอกาสเกิดแผลเป็นได้มากกว่าผู้ที่ไม่เคยมีประวัติ
ปัจจัยที่เป็นเหตุให้เกิดแผลเป็นนูนที่พบบ่อย
- แผลจากการเป็นสิว
- แผลจากการเจาะหู
- แผลปลูกฝี ฉีดวัคซีน
- แผลผ่าตัดต่างๆ
- แผลผ่าคลอด
- แผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก
- แผลถูกของมีคมบาด
- แผลจากอุบัติเหตุ
- แผลจากรอยสัก
ลักษณะทั่วไป
แผลเป็นนูนชนิดคีลอยด์จะมีขนาดใหญ่กว่าแผลเป็นธรรมดา และกว้างใหญ่กว่าแผลตอนเริ่มต้น มีลักษณะนูน แข็ง หรือหยุ่นคล้ายยาง ผิวมัน มองเห็นชัดเจนจากผิวหนังปกติ มีสีแดงเนื่องจากมีเส้นเลือดมาเลี้ยงเป็นจำนวนมาก แผลเป็นนูนชนิดคีลอยด์อาจจะมีอาการเจ็บ คัน ร่วมด้วย อาจจะกดแล้วเจ็บ ก้อนเนื้ออาจจะค่อยๆ โตขึ้นหรือคงที่แต่จะใหญ่กว่าแผลเดิม
สาเหตุ
แผลเป็นนูนเกิดจากการแบ่งตัวที่ผิดปกติของเนื้อเยื่อผิวหนังส่วนที่เป็นแผล ผิวหนังมีการสร้างเนื้อเยื่อซ่อมแซมที่มากเกินไป จนทำให้เกิดการขยายตัวกว้างขึ้นมากกว่ารอยแผลที่เป็นอยู่ และพันธุกรรมมีส่วนทำให้เกิดรอยโรคได้
ตำแหน่งที่พบ
แผลเป็นนูนมักพบได้ทั่วร่างกาย ส่วนมากพบบริเวณผิวหนังที่ตึงตัว โดยจะเห็นมากบริเวณหลัง ไหล่ แขน ขา คอ หน้าอก และหลังหู
วิธีการรักษาแผลเป็นนูนมีหลายวิธีดังนี้
1. การรักษาโดยใช้ยาทาแก้แผลเป็น เช่น ยากลุ่มสเตียรอยด์ ยาที่มีวิตามิน E หรือ A เป็นส่วนประกอบ กรณีที่แผลเป็นนูนเป็นเพียงเล็กน้อยและไม่นานนัก
2. การรักษาโดยใช้แผ่นซิลิโคนเจลปิดบริเวณแผลเป็น สำหรับแผลเป็นที่เป็นใหม่ๆ เพื่อช่วยลดการขยายตัวของแผล
3. การฉีดยาสเตียรอยด์ที่บริเวณแผลเป็น เพื่อให้แผลเป็นยุบลง แต่ต้องฉีดหลายครั้งจนกว่าแผลจะยุบและเรียบ
4. การรักษาด้วยการผ่าตัด เพื่อเอาแผลเก่าออกแล้วเย็บแผลใหม่อีกครั้ง ซึ่งอาจใช้ได้กับแผลเป็นบางชนิดเท่านั้น และควรทำกับแผลเป็นที่สมบูรณ์เต็มที่แล้ว ไม่ใช่แผลเป็นใหม่ที่เพิ่งเกิดขึ้น
เทคนิคที่ใช้ในการรักษาแผลเป็น
ราชเทวีคลินิกใช้วิธีการรักษาแบบใหม่ล่าสุด คือ Scarless Technique เป็นวิธีการรักษาแผลเป็นนูนชนิดคีลอยด์ที่ได้ผลดี และลดโอกาสการกลับมาเป็นซ้ำใหม่อีก จึงเป็นวิธีรักษาที่ได้ผลดีกว่าวิธีอื่นๆ
รอยแผลเป็นนูน สามารถรักษาให้หายขาดได้หรือไม่?
เป็นคำถามที่หลายคนสงสัย เพราะที่ผ่านมายังไม่มีการรักษาแบบใดที่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่ ณ ปัจจุบันนี้ "ราชเทวีคลินิก" ได้คิดค้นวิธีการรักษาแบบใหม่ คือ "Scarless Technique" ซึ่งเป็นวิธีที่ได้ผลดี หลังการรักษาพบว่าผิวที่เคยเป็นคีลอยด์มีโอกาสน้อยมากที่จะกลับมาเป็นซ้ำอีก จึงเป็นวิธีที่ได้ผลดีกว่าวิธีอื่นๆ
ภาพผู้ที่ได้รับการรักษาโดยวิธี Scarless Technique
อัตราค่าบริการ
- ฉีดยา อยู่ที่ประมาณ 500-1,000 บาท
- Laser เริ่มต้นที่ 1,000 บาทขึ้นไป
- กรณีผ่าตัดเล็ก เริ่มต้นที่ 10,000 บาทขึ้นไป