นโยบายความเป็นส่วนตัวในการใช้งานกล้องวงจรปิด (CCTV)
วันที่ 16 เม.ย. 2565 | โดย ราชเทวีคลินิก

rc-privacy-policy-on-cctv-header.jpg
ฉบับลงวันที่ 16 เมษายน 2565

นโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ (“นโยบาย”) จะอธิบายเกี่ยวกับการใช้อุปกรณ์กล้องวงจรปิด (“CCTV”) ที่ บริษัท ราชเทวี โฮลิสติก คลินิก จำกัด และบริษัทในเครือ หรือภายใต้แบรนด์ ราชเทวีคลินิก (ซึ่งต่อไปนี้เรียกว่า "บริษัทฯ" "เรา" หรือ "ของเรา") ได้ใช้อุปกรณ์ CCTV พร้อมกับระบบต่าง ๆ สำหรับการตรวจสอบภายในพื้นที่ใดเป็นการเฉพาะ รวมถึงพื้นที่รอบ ๆ บริเวณของสถานที่ อาคาร และพื้นที่ใด ๆ เพื่อการป้องกันชีวิต อนามัย และทรัพย์สิน โดยมีข้อมูลส่วนบุคคลของลูกจ้าง กรรมการบริษัท คู่ค้า ผู้ปฏิบัติงาน ลูกค้า ผู้มาติดต่อ หรือบุคคลใดก็ตาม (ซึ่งจะรวมเรียกว่า “ท่าน” หรือ “ของท่าน) ที่ได้เข้าไปอยู่ในบริเวณพื้นที่ที่ทำการตรวจสอบภายในอาคารและพื้นที่ใด ๆ ดังกล่าว นอกจากนี้ นโยบายฉบับนี้อธิบายถึงวิธีการในการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และการส่งหรือโอนย้ายข้อมูลเกี่ยวกับบุคคล ซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ (“ข้อมูลส่วนบุคคล”) ของท่าน และระบุถึงวิธีการในการจัดการ หรือการใช้ระบบ CCTV ของเรา ทั้งนี้ เราอาจทำการแก้ไขเพิ่มเติมนโยบายฉบับนี้ได้ทุกเมื่อ และจะแจ้งถึงการแก้ไขดังกล่าวให้ท่านได้ทราบเท่าที่จะดำเนินการได้
    
1. ข้อมูลส่วนบุคคลประเภทใดบ้างที่เราเก็บรวบรวม
เราจะทำการเก็บภาพเคลื่อนไหวหรือภาพนิ่ง ซึ่งสามารถที่จะสามารถจดจำได้ว่าเป็นท่าน เสียงของท่าน รวมถึงทรัพย์สินของท่าน เมื่อเข้าไปในพื้นที่ที่ได้ทำการตรวจสอบภายในสถานที่ อาคาร และพื้นที่ใด ๆ ของเรา ผ่านระบบและอุปกรณ์ CCTV (“ข้อมูลจาก CCTV”) 


2. เหตุใดเราจึงเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
2.1 เราอาจทำการรวบรวม เก็บภาพ ใช้ เปิดเผย โอน และดำเนินการใด ๆ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการบันทึกการเก็บบันทึก การปรับเปลี่ยน การแก้ไข การดัดแปลง การทำลาย การลบ การกู้คืน การรวม การทำสำเนา การส่งผ่าน การเก็บรักษา การถอน การปรับปรุง การเพิ่มเติม ต่อข้อมูลจาก CCTV เกี่ยวกับท่านและข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับท่าน สำหรับ "วัตถุประสงค์การตรวจสอบโดย CCTV" ตามรายการที่ระบุไว้ด้านล่าง จะกระทำบนฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย เพื่อประโยชน์ต่อชีวิต เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย เพื่อประโยชน์สาธารณะ ตามความยินยอมที่ได้รับ หรือตามฐานอื่นใดที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายที่บังคับใช้ในประเทศไทย (โดยที่ผลประโยชน์เหล่านั้นจะไม่เป็นการก้าวล่วงต่อสิทธิและผลประโชน์ของบุคคลใด) ซึ่งอาจพิจารณาได้ตามกรณีดังนี้
  • เพื่อปกป้องชีวิต ร่างกาย ความปลอดภัยอนามัยส่วนบุคคล และ/หรือทรัพย์สินส่วนตัวของท่าน
  • เพื่อควบคุมการเข้ามาภายในอาคาร และเพื่อการรักษาความปลอดภัยของอาคาร บุคลากร พนักงาน และผู้มาติดต่อ รวมทั้งทรัพย์สินและข้อมูลของเราที่ตั้งอยู่หรือเก็บไว้ในสถานที่นั้น ๆ 
  • เพื่อการปกป้อง/ป้องกันสถานที่ อาคาร พื้นที่ต่าง ๆ และทรัพย์สินของเรา จากความเสียหาย การหยุดชะงัก การทำลาย และอาชญากรรมอื่น ๆ 
  • เพื่อช่วยเหลือในการแก้ไขปัญหาข้อพิพาทอย่างมีประสิทธิภาพที่เกิดขึ้นในขณะทำการลงโทษทางวินัย หรือการพิจารณาเรื่องร้องทุกข์
  • เพื่อช่วยเหลือในการสืบสวนสอบสวน หรือการดำเนินการเกี่ยวกับการร้องเรียน และการแจ้งเบาะแส
  • เพื่อนำไปใช้ในการพิสูจน์หรือหักล้างในการดำเนินคดีทางแพ่ง ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการดำเนินกระบวนพิจารณาคดีแรงงาน
  • เพื่อปฏิบัติตามหน้าที่ตามกฎหมายของเรา และ/หรือ การให้ความร่วมมือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานอัยการ ศาล หน่วยงานกำกับดูแล หน่วยงานของรัฐ และหน่วยงานที่มีอำนาจบังคับใช้กฎหมาย สำหรับการใช้อำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงเพื่อความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงาน พวกเราเล็งเห็นว่าการใช้ระบบ CCTV เป็นมาตรการที่จำเป็นเพื่อให้เราสามารถปฏิบัติตามภาระหน้าที่เหล่านั้นได้
  • เพื่อการใช้สิทธิของเราหรือปกป้องผลประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของเราในกรณีที่จำเป็นต้องทำเช่นนั้น เพื่อระงับยับยั้ง ป้องกันและตรวจจับการประพฤติมิชอบ อาชญากรรมหรือการฝ่าฝืนกฎหมาย ติดตามเหตุการณ์ เพื่อป้องกันและรายงานการประพฤติมิชอบหรืออาชญากรรมในคลินิกของเรา และเพื่อปกป้องความปลอดภัยและความมั่นคงของธุรกิจของเรา พวกเราจะพยายามอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างสมดุลระหว่างผลประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของเราและของบุคคลที่สาม และสิทธิขั้นพื้นฐานและเสรีภาพของท่านที่เกี่ยวข้องกับการปกป้องข้อมูลบนระบบ CCTV ที่เกี่ยวข้องกับท่าน ตามแต่กรณี เราจะพยายามระบุถึงขั้นตอนที่จำเป็นเพื่อให้เกิดความสมดุลที่เหมาะตามแต่สมควร  
2.2 เราจะติดตั้งอุปกรณ์ CCTV ที่จุดสำคัญภายในสถานที่ อาคารและพื้นที่ต่างๆ ของเรา ยกเว้นบางพื้นที่ เช่น ห้องตรวจ ห้องทำหัตถการ ห้องทำทรีทเมนท์ ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า ห้องสุขา และห้องอาบน้ำ

2.3 ระบบ CCTV ของเราเปิดใช้งานตลอด 24 ชั่วโมง โดยจะมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของเราทำการเฝ้าดูผ่านอุปกรณ์ ยกเว้นในกรณีที่อุปกรณ์/ระบบเกิดความขัดข้อง และ/หรือต้องทำการซ่อมบำรุง 

2.4 เราจะจัดวางป้ายตามความเหมาะสมในสถานที่ที่มีการใช้งานระบบ CCTV


3. บุคคลใดที่อาจได้รับการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
3.1 เราจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับท่านในระบบ CCTV ไว้เป็นความลับ และจะทำการเปิดเผยหรือถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเฉพาะเพียงบริษัทลูก บริษัทในเครือของเรา บุคคลภายนอกอื่น ๆ ที่จะถูกคัดเลือกอย่างระมัดระวังในเวลานี้หรือในอนาคต ผู้ได้รับอนุญาต พันธมิตรกิจการร่วมค้า และ/หรือผู้ให้บริการ เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์การตรวจสอบโดย CCTV ตามที่ระบุไว้ในนโยบายนี้ 

3.2 บุคคลภายนอกซึ่งเราอาจเปิดเผยข้อมูลจากระบบ CCTV และข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับท่าน ซึ่งรวมถึงการเปิดเผยต่อบริษัทในเครือของเรา (เป็นส่วนหนึ่งของประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของเราและประโยชน์ของบริษัทในเครือของเรา เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์การตรวจสอบโดย CCTV) หน่วยงานภาครัฐ และ/หรือองค์กรที่ทำหน้าที่กำกับดูแล (เพื่อปฏิบัติตามหน้าที่ตามกฎหมาย หรือเพื่อสนับสนุนหรือช่วยเหลือแก่องค์กรบังคับใช้กฎหมายในเรื่องการสอบสวนและดำเนินคดีทางแพ่งหรือทางอาญา) และผู้ให้บริการบุคคลที่สาม (ตามขั้นตอนที่จำเป็นของเราเพื่อให้แน่ใจว่า เราจะให้การคุ้มครองต่อสุขภาพและความปลอดภัยส่วนบุคคล และทรัพย์สินของท่าน) อย่างไรก็ตามการเข้าถึงข้อมูลระบบ CCTV นั้น อาจเป็นการเข้าถึงหรือเปิดเผยได้เท่าที่จำเป็น เพื่อจัดการกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นซึ่งอยู่ภายใต้หนึ่งในวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในข้อ 3.2 นี้ หรือเพื่อตอบสนองการร้องขอของบุคคลตามกฎหมายภายใต้ข้อ 2.1

ฐานการประมวลผลข้อมูล
เราดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้ฐาน ดังต่อไปนี้ ฐาuประโยชน์อันชอบธรรม (Legitimate Interest) และฐานการปฏิบัติตามกฎหมาย (Legal Obligation)
 

4. การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ 
เราอาจเปิดเผยหรือถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากระบบ CCTV  (ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของขั้นตอนที่จำเป็นสำหรับสุขภาพ ความปลอดภัยส่วนบุคคลและทรัพย์สินของท่าน) ไปยังผู้ให้บริการบุคคลที่สามที่อยู่นอกประเทศไทย และการเปิดเผยหรือถ่ายโอนดังกล่าวจะกระทำต่อเมื่อได้รับความยินยอมจากท่าน หรือมีพื้นฐานตามกฎหมายอื่นที่บังคับให้กระทำตามที่กฎหมายอนุญาตไว้ (เช่นเพื่อปฏิบัติตามข้อกำหนดของสัญญาระหว่างเรากับบุคคลอื่นเพื่อประโยชน์ของท่าน) โดยที่ประเทศปลายทางดังกล่าวอาจมีหรือไม่มีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่คล้ายคลึงกับประเทศไทย อย่างไรก็ตาม เราจะทำให้มั่นใจได้ว่าการโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้กระทำตามกฎหมายเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลแล้วก่อนจะดำเนินการโอนข้อมูลส่วนบุคคลนั้น


5. มาตรการรักษาความปลอดภัย
5.1 เราจะจัดให้มีระบบเทคนิค และการบริหารจัดการมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสม เพื่อป้องกันข้อมูลจากระบบ CCTV และข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับท่านจากการถูกทำลาย การสูญหาย การเข้าถึง การใช้งาน การเปลี่ยนแปลง หรือการเปิดเผย โดยไม่ได้ตั้งใจ โดยผิดกฎหมาย หรือโดยไม่ได้รับอนุญาต
5.2 เราจะทบทวนและปรับปรุงมาตรการรักษาความปลอดภัยของเราเป็นครั้งคราวตามความจำเป็น หรือเมื่อมีการพัฒนาเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มั่นใจว่ามาตรการรักษาความปลอดภัยมีประสิทธิภาพและเหมาะสม สอดคล้องกับข้อกำหนดทางกฎหมายขั้นต่ำ ตามที่กำหนดโดยหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง 
 

6. ระยะเวลาในการที่เราเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
เราจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่เราได้มาจากระบบ CCTV ไว้ในระบบของเราตามระยะเวลาเท่าที่จำเป็น (ไม่เกิน 30 วัน นับจากวันที่บันทึกข้อมูล และเมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาข้างต้น ภาพจะถูกลบออกจากระบบโดยอัตโนมัติ หรือบริษัทจะทำการลบหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้) เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์การตรวจสอบโดย CCTV หากเราไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายที่ใช้บังคับในการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากระบบ CCTV อีกต่อไป เราจะทำการลบข้อมูลเหล่านั้นออกจากระบบและการบันทึกของเรา อย่างไรก็ตามเราอาจทำการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากระบบ CCTV เป็นระยะเวลานานขึ้น ตัวอย่างเช่น ทำการเก็บไว้จนกว่าจะสิ้นสุดของการดำเนินการตามกฎหมาย หรือมีกฎหมายที่กำหนดระยะเวลาในการเก็บข้อมูลที่ยาวนานกว่า หรือมีข้อมูลระบบ CCTV บางอย่างซึ่งต้องทำการเก็บรักษาไว้สำหรับการดำเนินการต่อเหตุการณ์บางเรื่อง หรือเพื่อตอบสนองต่อข้อเรียกร้องจากบุคคลหนึ่งบุคคลใดในการใช้สิทธิตามกฎหมาย


7. ท่านมีสิทธิอย่างไรเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
ภายใต้บทบัญญัติแห่งกฎหมายและข้อยกเว้นตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ท่านอาจมีสิทธิในการขอเข้าถึง และ/หรือขอรับสำเนา โอนย้าย แก้ไข ลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลกลายเป็นข้อมูลที่ไม่ระบุตัวตนในข้อมูลส่วนบุคคลบางประเภทของท่าน ระงับและ/หรือคัดค้านกิจกรรมบางประเภทที่เรามีและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ในกรณีที่การดำเนินการใดของเรากระทำภายใต้ความยินยอมของท่าน ท่านอาจเพิกถอนความยินยอมของท่านได้ แต่อาจเป็นสาเหตุให้เราไม่สามารถให้บริการของเราแก่ท่านได้อย่างเต็มที่


8. รายละเอียดการติดต่อเรา
หากท่านมีข้อซักถามหรือข้อสงสัยประการใด หรือมีความประสงค์ที่จะร้องขอใช้สิทธิของท่านเกี่ยวกับข้อมูลในระบบ CCTV โปรดติดต่อเราหรือเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเรา ที่

บริษัท ราชเทวี โฮลิสติก คลินิก จำกัด (สำนักงานใหญ่)
888/42 ด้านหลังอาคารมหาทุนพลาซ่า ถนนเพลินจิต แขวงลุมพินี
เขตปทุมวัน กทม. 10330
เบอร์ติดต่อ : 022515588
อีเมล : webmaster@rcskinclinic.com

 
คัดลอกแล้ว
จาก 0 คน
VIEWS
2002
TAGS: