Precision Medicine กับการรักษาโรคมะเร็งแบบตรงเป้า
วันที่ 12 พ.ค. 2564
| โดย
ราชเทวีคลินิก
การรักษาโรคด้วยหลัก "การแพทย์แม่นยำ" ที่กำลังเป็นที่จับตามองในวงการการรักษาโรคมะเร็งทั้งในและต่างประเทศ การรักษาแบบนี้มีวิธีการอย่างไร?
"การแพทย์แม่นยำ" หรือ
"Precision Medicine" เป็นแนวทางทางการแพทย์ใหม่ที่มีความเฉพาะเจาะจง เนื่องจากจะมีการให้ความสำคัญกับความแตกต่างของแต่ละบุคคล นั่นหมายถึงโรคเดียวกัน อาจจะใช้วิธีการรักษาต่างกัน ใช้ยาไม่เหมือนกัน โดยคำนึงถึงปัจจัยเฉพาะบุคคลเป็นหลัก ทั้งในเรื่องของพันธุกรรม (Genes) สิ่งแวดล้อม (Environment) และวิถีการดำเนินชีวิต (Lifestyle) ที่มีความแตกต่าง โดยจะไม่ได้เน้นในเรื่องของการรักษาเพียงอย่างเดียว แต่จะเกี่ยวไปถึงเรื่องของการป้องกันการเกิดโรคด้วย
ปัจจุบันมีการแนวทาง Precision Medicine มาใช้อย่างกว้างขวางในหลากหลายวงการ โดยเฉพาะวงการแพทย์ รวมถึงการนำมาใช้เป็นแบบแผนในการวางแผนการรักษาโรงมะเร็งด้วย
การรักษาโรงมะเร็งแบบทั่วไป
น่าจะเป็นภาพจำที่ติดตาใครหลายๆ คน แม้จะไม่ได้ประสบพบเจอกับผู้ป่วยโรคมะเร็งในชีวิตจริง หรือเป็นกับบุคคลในครอบครัว ก็อาจจะเคยเห็นในหนังในละครกันมาบ้าง ที่ผู้ป่วยมะเร็งมักจะผมร่วง หัวล้าน และมีอาการข้างเคียงมากมาย
มะเร็ง คือ การเจริญเติบโตของเซลล์ที่ผิดปรกติในร่างกาย ซึ่งในตัวของมันมีการกลายพันธุ์ คือมีการเปลี่ยนแปลงยีน และสารพันธุกรรม เมื่อเซลล์ที่ผิดปรกตินี้เกิดเติบโตแข็งแรงขึ้นมาเกินกว่าร่างกายจะต้านทานได้ ก็จะเกิดการแพร่กระจายไปตามอวัยวะต่างๆ ซึ่งในเซลล์มะเร็งก้อนหนึ่งๆ อาจจะมีเซลล์มะเร็งอยู่มากมายหลายชนิด แน่นอนว่าไม่มียาตัวใดตัวหนึ่งที่เหมาะที่จะทำลายเซลล์มะเร็งได้ทุกแบบ
วิธีการรักษาด้วยเคมีบำบัดอาจได้ผลดีกับคนไข้ในบางราย และทำให้เกิดอาการข้างเคียงรุนแรง หลากหลายในคนไข้บางรายเช่นกัน เพราะการใช้ยาเคมีบำบัดนอกจากจะทำลายเซลล์มะเร็งแล้ว ยังอาจจะไปทำลายเซลล์ปกติอื่นๆที่แบ่งตัวเร็วในร่างกายด้วย อาทิ เซลล์รากผม เซลล์เม็ดเลือด เซลล์ทางเดินอาหาร ซึ่งมีผลให้เกิดอาการข้างเคียงต่างๆ เช่น ผมร่วง มีจ้ำเลือดตามตัว อ่อนเพลีย คลื่นไส้ เป็นไข้ หนาวสั่น เจ็บเยื่อบุในช่องปาก ท้องเสีย และอาการอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งขึ้นอยู่กับชนิด หรือปริมาณของยาที่ใช้ แต่ละคนจะมีการตอบสนองแตกต่างกัน
ด้วยเหตุนี้ จึงมีการนำเอาการรักษาแบบ Precision Medicine หรือ การแพทย์แม่นยำ มาใช้ในวงการรักษาโรคมะเร็ง เพื่อช่วยตั้งแต่ขั้นตอนในการวินิจฉัย การวางแผนการรักษา การเลือกใช้ยาให้ตรงเป้า รวมไปถึงสามารถป้องกันการเกิดโรคมะเร็งในอนาคตของบุคคลที่ได้รับการวินิจฉัยว่ามีความเสี่ยงได้อีกด้วย
แนวทางการรักษาโรคมะเร็งแบบ Precision Medicine
เริ่มต้นด้วยการวินิจฉัยแบบเฉพาะเจาะจง ซึ่งจะมีการตรวจเซลล์มะเร็งแต่ละตำแหน่งลึกลงไปถึงระดับยีน ซึ่งเมื่อแพทย์ได้ข้อมูลทางพันธุกรรมของเซลล์มะเร็งนั้นๆ แล้ว ก็จะทำให้รู้ชนิด และการทำงานของเซลล์มะเร็งนั้นๆ เพื่อที่จะวางแผนการเลือกใช้ยาที่จะเข้าไปยับยั้งการทำงาน หรือทำลายเซลล์มะเร็งแต่ละชนิดอย่างได้ตรงเป้า
ผลจากการรักษาแบบพุ่งเป้านี้มีข้อดีมากมาย ทั้งสามารถทำลายเซลล์มะเร็งนั้นๆ ได้ตรงเป้า โดยไม่ไปทำลายเซลล์ปรกติชนิดอื่นในร่างกาย ลดการเกิดผลข้างเคียง ซึ่งส่งผลให้มีการตอบสนองการรักษาที่ดีขึ้น และยังลดโอกาสการกลับมาเป็นซ้ำได้อีกด้วย
Precision Medicine สามารถใช้ป้องกันการเกิดมะเร็งได้ด้วย
ประโยชน์ที่มากกว่าการักษานั่นก็คือ การป้องกัน Precision Medicine สามารถนำมาใช้ในการป้องกันการเกิดโรคมะเร็งในอนาคตในรายที่มีความเสี่ยงได้อีกด้วย
ปัจจุบันหากคุณเป็นกลุ่มบุคคลที่มีความเสี่ยง เช่น มีพ่อแม่ หรือญาติเป็นมะเร็ง ก็สามารถเข้ารับการตรวจยีน เพื่อเช็คโอกาสการเกิดโรงมะเร็งในอนาคตของคุณได้ ซึ่งมีประโยชน์ในการเฝ้าระวัง หรือติดตามอาหาร เพื่อการรักษาได้ตรงเป้า และทันการณ์ ก่อนที่การดำเนินของโรคจะรุนแรง
มีกรณีศึกษาในต่างประเทศอย่างเช่น ดาราฮอลิวู้ดชื่อดัง Angelina Jolie ก็ได้รับการตรวจชนิดนี้ และมีการวินิจฉัยว่ามีความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งเต้านม 87% เธอก็เลยตัดเต้านมออกทั้ง 2 ข้าง และอีก 2 ปีต่อมา ก็ตัดรังไข่ และท่อนำไข่ทิ้งอีก เพราะตรวจเจอว่ามีความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งรังไข่ และท่อนำไข่ 50%
ไม่ใช่ว่าใครที่ตรวจเจอความเสี่ยงแล้วต้องตัดสินใจตัดทิ้งแบบเธอทุกคน อันนี้เป็นการตัดสินใจส่วนบุคคล ส่วนถ้าไม่เลือกทางนี้ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญน่าจะมีทางออกดีๆ ทางอื่นให้คุณอีกหลายทาง
TAGS:
Angelina Jolie, Precision Medicine, เคมีบำบัด, เซลล์มะเร็ง, โรคมะเร็ง, ก้อนมะเร็ง, การแพทย์แม่นยำ, คีโม, ทำลายเซลล์มะเร็ง, มะเร็งเต้านม, มะเร็งรังไข่, มะเร็งลำไส้, ยารักษามะเร็ง, รักษามะเร็ง, รักษามะเร็งแบบตรงเป้า, รักษาสิวแบบ Precision, อาการข้างเคียงคีโม