ผื่นผิวหนังจากการแพ้ยา (Adverse Drug Eruptions)
วันที่ 22 ธ.ค. 2553 | โดย Redlab User


ผลข้างเคียงจากการใช้ยารักษาโรค มีผลต่ออวัยวะหลายระบบทั่วร่างกาย ที่เห็นเด่นชัดจากภายนอก คือ ผิวหนัง

จากสถิติ พบว่า การใช้ยาโดยทั่วไป พบผื่นผิวหนังจากการแพ้ยามากกว่า 1% และพบมากขึ้นเป็น 2%-3% ในผู้ป่วยที่รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล โดยผื่นผิวหนังจากการแพ้ยา มีหลายรูปแบบ และความรุนแรงแตกต่างกันไป
1. Immunologic Hypersensitivity : ภูมิคุ้มกันในร่างกายไวกว่าปรกติ
2. Nonimmunologic Hypersensitivity : สาเหตุอื่นๆที่ไม่เกี่ยวข้องกับระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย
  • ยาบางชนิดมีปฎิกริยาร่วมกับแสงแดด ทำให้เกิดผื่นบริเวณที่สัมผัสกับแสงแดด
  • ไม่ทราบสาเหตุ และกลไกการเกิดโรคที่แน่ชัดในแต่ละบุคคล ซึ่งอาจเกิดการระคายเคืองจากการใช้ยาแต่ละชนิดแตกต่างกันไป
รูปแบบผื่นผิวหนังจากการแพ้ยาที่พบบ่อย
  1. Drug Exantheme (39%) : ผื่นผิวหนังอักเสบคล้ายออกหัด หรือออกดอก
     
  2. Urticaria / angioldema (16%) : ผื่นแดง นูน คัน ตามลำตัว แขน ขา คล้ายผื่นลมพิษ ถ้าเป็นมาก อาจลามทั่วตัว รุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้
     
  3. Fixed drug eruption (27%) : ลักษณะเป็นผื่นวงกลม หรือรี ขอบชัด สีเทาเงิน ถ้าเป็นรุนแรงอาจมีตุ่มพองบนผื่น รอยดำจะคงอยู่นาน ถ้ายังคงได้ยาซ้ำอีก ผื่นจะเกิดขึ้นที่เดิมและขยายใหญ่ลามมากขึ้นได้
     
  4. Erythema Multiforme (5.4%) : ลักษณะเป็นผื่นวงกลม มีจุดสีดำตรงกลาง ล้อมรอบด้วยรอยซีด และรอยแดง เหมือนเป้ายิงปืน
     
  5. Drugs Cause Photosensitivity : กลุ่มยาที่ไวต่อแสงแดด ทำให้เกิดผื่นบริเวณ Sun-exposed Area ถึงที่หน้า คอ แขนด้านนอก เป็นต้น
หลักเกณฑ์ที่พอจะบ่งชี้ว่าผื่นที่เกิดขึ้นน่าจะเกิดจากการแพ้ยา คือ
  • ประสบการณ์ในอดีต : สถิติการเกิดผื่นแพ้ยาของยาแต่ละชนิด และรูปแบบที่เฉพาะเจาะจงของผื่นแพ้ยาที่เกิดขึ้น
     
  • พิจารณาว่าผื่นนั้นอาจเกิดจากสาเหตุอื่นได้หรือไม่
     
  • ระยะเวลาที่กินยาจนกระทั่งเกิดขึ้น : ผื่นแพ้ยามักเกิดภายใน 1-2 สัปดาห์
     
  • Dechallenge : หยุดยาผื่นควรจะหาย
     
  • Rechallenge : ให้ยาแก้ไปใหม่ ผื่นเกิดขึ้นอีก
     
  • การตัดชิ้นเนื้อตรวจทางพยาธิวิทยา
     
  • การตรวจเลือด : ระดับเม็ดเลือดขาวสูงขึ้น โดยเฉพาะ Eosinophil > 1,000 | µ| และอาจพบ atypical lymphocytes
ยาใดที่ทำให้แพ้ : ยาทุกตัวสามารถเกิดอาการแพ้ได้เหมือนกัน ที่พบบ่อยได้แก่
  • กลุ่มยาต้านจุลชีพ เช่น กลุ่ม Pencillin, Sulfa, Tetracycline
  • กลุ่มยาลดไข้ แก้ปวด เช่น Phenybutagone
  • กลุ่มยาระงับประสาท, ยากันชัก
  • กลุ่มยาลดน้ำตาลในเลือด
  • กลุ่มยาลดความดันโลหิต


ค้นหาสาเหตุ : ชนิดของยาที่ทำให้เกิดผื่น และรีบหยุดยาโดยเร็ว
รักษาตามอาการของโรค :
  • Antihistamine ลดอาการคัน
  • Corticostiroids ยาทาแก้อักเสบสเตียรอยด์
  • สเตียรอยด์ ในรูปแบบยากินและให้ทางเส้นเลือดในกรณีผื่นแพ้ยารุนแรง ที่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิต และยังไม่สามารถทราบถึงชนิดยาที่แพ้
การดำเนินโรค
  • หลังจากหยุดยาที่แพ้ : ผื่นมักจะจางลง แต่บางครั้งก็ลามมากขึ้นได้
     
  • เมื่อได้รับยานั้นอีกครั้ง : ผื่นมักจะเกิดขึ้นซ้ำได้ แต่ไม่เสมอไป บางครั้งผื่นอาจเกิดขึ้นหลังจากหยุดรับยา 3-5 วัน บางครั้งก็อาจไม่เกิดขึ้นซ้ำอีกได้



    ประวัติการแพ้ยา
    • ผู้ป่วยควรจดจำชื่อยาที่ตนเองแพ้ และแจ้งแพทย์ทราบทุกครั้งที่เข้ารับการรักษา
       
    • บุคลากรทางการแพทย์ ควรให้ความระมัดระวังในการเลือกใช้ยา ที่อาจมีปฎิกริยาร่วมกับกลุ่มยาที่ผู้ป่วยแพ้ได้

คัดลอกแล้ว
จาก 4 คน
VIEWS
40188