แพ้ยาคลินิกอื่น
เคยรักษาที่ราชเทวีมา 4-5 ปีแล้วแล้วก็หยุดไปรักษาที่คลินิกแห่งหนี่งได้ประมาณ 3 อาทิตย์ แล้วจากที่ไม่เคยเป็นสิวอักเสบเลย ก็กลับมาเป็นมากที่แก้มและหน้าผาก เลยหยุดยาแล้วไปรักษาที่ราชเทวีอีก อยากทราบว่าจะมีโอกาสหายเหมือนเดิมมั้ยคะ มีสิวประมาณ 4-5 เม็ดที่หน้าผากและที่แก้ม 4-5 เม็ด แต่มันก็เพิ่มมาทุกวันเลย คิดว่าเป็นผลจากการรักษาที่คลินิกอื่นรึเปล่า แล้วทำไมถึงแพ้คะ หรือว่าเป็นยาเร่งสิว แต่ก็หยุดยาไปแล้ว หนูทำถูกมั้ยคะ
คำถามที่:Q9943| จากคุณAnonymous| 03/06/2545 12:21 น.
ตอบคุณชฎากานต์นะคะ
หมอไม่แน่ใจว่าคุณชฎากานต์อายุเท่าไร เพราะไม่ได้บอกมา ประวัติบางส่วนก็หายไป เช่น ช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมาสภาพผิวหน้าเป็นอย่างไร และก่อนที่จะเกิดสิวครั้งนี้มีประวัติเปลี่ยนเครื่องสำอาง ลองใช้เครื่องสำอางอื่นๆ เปลี่ยนสบู่ โฟม ไปนวดหน้า ขัดถูหน้ามาหรือเปล่า กินฮอร์โมน ยาอะไรหรือไม่ สภาพแวดล้อมต่างๆ เปลี่ยนไปหรือไม่ สุขภาพร่างกายจิตใจเป็นอย่างไร ฯลฯ
ส่วนลักษณะสิวก็ต้องประเมินค่ะ มันไม่สำคัญว่ากี่เม็ดค่ะ เพราะนั่นอาจเป็นเพียงส่วนน้อยนิดที่อาจโผล่ขึ้นมา เหมือนยอดของภูเขาที่โผล่ออกมาจากทะเล แต่ใต้พื้นผิวน้ำยังมีภูเขาที่ยังใหญ่อยู่มาก เฉกเช่นเดียวกันค่ะ ใต้ผิวของคุณชฎากานต์ก็อาจมีสิวอุดตันอยู่อีกมากค่ะ
หมอสังเกตว่า คนไข้ส่วนใหญ่มักจะคิดว่า การรักษาสิว คือ ทำให้มันยุบไป ซึ่งหมอคิดว่ามันไม่ถูกต้องซะทีเดียวนะคะ ไม่ทราบว่าคุณชฎากานต์เคยกวาดบ้านเองหรือเปล่าคะ ถ้าเคยทำจะสังเกตได้ว่า เราไม่เคยกวาดสิ่งสกปรกกลับเข้าไปในซอกตู้หรือโต๊ะ มีแต่กวาดออกมา และก็ยิ่งต้องพยายามกวาดฝุ่นหรือสิ่งสกปรกออกมาให้หมด เพื่อจะได้ไม่มีตกค้างอยู่ แต่เราจะไปบอกว่าไม้กวาดเป็นตัวเร่งฝุ่นหรือสิ่งสกปรกก็หาใช่ไม่ เพราะฝุ่นหรือสิ่งสกปรกมันมีอยู่แล้ว เฉกเช่นเดียวกัน ยาที่ไปทาละลายสิว เราก็จะเรียกว่าเป็น ยาเร่งสิวก็ไม่ถูกต้อง เพราะสิวมันมีอยู่แล้ว ยาก็เหมือนไม้กวาดไปกวาดให้สะอาด ยาก็ไปละลายสิวที่อุดตันให้หลุดออกไปไม่ใช่ให้ยุบกลับเข้าไปค่ะ
ดังนั้นถ้าคุณชฎากานต์มีสิวอุดตันอยู่ใต้ผิวหนังมาก ยาก็จะไปจัดการให้หมดไป ไม่เพียงแต่กำจัด 4-5 เม็ดที่อยู่ผิวๆ ซึ่งลักษณะเช่นนี้หมอไม่คิดว่าจะเป็นการแพ้ยาค่ะ
ถ้าในช่วงแรกคุณชฎากานต์ไม่แน่ใจ การหยุดยา หมอก็คิดว่าถูกต้อง แต่จะให้ถูกยิ่งขึ้นอาจจะปรึกษากับคุณหมอท่านเดิมที่คุณชฎากานต์รักษาอยู่ ให้คุณหมอพิจารณาและอธิบายให้ฟังอีกครั้ง หมอก็คิดว่าน่าจะดีนะคะ เหมือนกับสโลแกนมือถือบางยี่ห้อที่ว่า "พูดกันให้มากขึ้น ฟังกันให้มากขึ้น เข้าใจกันให้มากขึ้น" ค่ะ
ตอบโดย:พญ. พรรณเพ็ญ ประภาศิริกุล| วันที่ 10/06/2545

จาก: 0 คน
VIEWS
3668