เรื่อง สิว...สิว.. (Acne Vulgaris) ไม่ว่าจะเป็นเม็ดเล็ก เม็ดใหญ่ ชนิดอุดตัน หรือชนิดอักเสบ หากกรณีคุณ T_M_V มีปัญหาสิวขึ้นอยู่เป็นประจำ และยังมีฮอร์โมน แนะนำว่าควรต้องตั้งอกตั้งใจดูแลโรคนี้กันเป็นประจำนะคะ ไม่ใช่มองแค่รักษาเอาแค่เม็ดสิวยุบแล้วเลิก ไม่งั้นจะมีปัญหาสิวและผลจากสิว (ทั้งรอยสิว หลุมสิว) ให้รักษากันอยู่เรื่อยๆ นั่นแหละค่ะ

เมื่อมีสิวอักเสบแล้วมีโอกาสเป็นหลุมสิวได้ค่ะ ขึ้นอยู่กับการซ่อมแซมผิวของแต่ละคน ตลอดการรบกวนเม็ดสิว เช่น การบีบ การแกะ เป็นต้น

วิธีการรักษาสิว ได้แก่

1. การทายา ส่วนใหญ่เป็นยากลุ่มละลายการอุดตัน เช่น 5%BP-FR , Sebex , VAC และกลุ่มแก้อักเสบฆ่าเชื้อ เช่น CM solution , Acne gel , Acne spot กรณีเป็นไม่มากแค่ขยันทายาเป็นประจำก็เอาอยู่แล้วล่ะค่ะ ค่าใช้จ่ายยากลุ่มนี้ตั้งแต่ 70 - 135 บาท/หลอด
2. การใช้ยารับประทานแก้อักเสบ มักจะให้ทานยาแก้อักเสบร่วมกับทายา กรณีเป็นระดับกลางจนถึงรุนแรง ( Ance grade II –IV ) แพทย์จะให้ยาในขนาดและระยะเวลาตามความรุนแรงของสิวค่ะ ค่าใช้จ่ายประมาณ 100 – 250 บาท/สัปดาห์

3. การรับประทานกรดวิตามินเอ (Isotretinoin) (ชื่อการค้า เช่น Roaccutane , Acnotin , Isotane) กรณีเป็นสิวรุนแรง, ดื้อต่อการรักษาเป็นเรื้อรัง, ตอบสนองต่อข้อ 1 และ 2 ไม่ดี การใช้กรดวิตามินเอ เป็นยาที่ให้ผลดีมากในการรักษาสิว แต่ควรต้องทานอยู่ในระยะเวลาประมาณ 15 - 20 สัปดาห์ ราคา 45 - 48 บาท/เม็ด (ขนาด 10 mg ) / 75 - 78 บาท/เม็ด (ขนาด 20 mg) ราคาต่างกันขึ้นอยู่กับยี่ห้อค่ะ
นอกจากนี้อาจใช้วิธีอื่นๆ ร่วมนอกเหนือจากการใช้ยาทานและยาทา ได้แก่

4. การกดสิว (Comedone Extraction) ทำในกรณีเป็นสิวอุดตันหัวเปิดเท่านั้นค่ะ ที่ราชเทวีคลินิกกดสิวไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายค่ะ

5. การทำเลเซอร์สิวอุดตัน เป็นทางลัดในการเอาสิวอุดตันหัวปิดออก โดยจะมีแผลสะเก็ดเล็กๆ ต้องดูแลตัวเองหลังเลเซอร์ประมาณ 1 สัปดาห์ให้ผลเร็วทันใจดีค่ะ ค่าใช้จ่ายหลักร้อย - หลักพัน ขึ้นกับปริมาณเม็ดสิวค่ะ

6. การฉีดสิว เป็นทางลัดในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า โดยเฉพาะในสิวเม็ดใหญ่มากๆ สิวยุบเร็วทันใจภายใน 1-3 วัน แต่วิธีนี้ทางราชเทวีคลินิกมักจะสงวนไว้ใช้ กรณีจำเป็นจริงๆ ค่ะ เช่น จะแต่งงาน , จะรับปริญญา หรือกลุ่มอาชีพที่ต้องดูแลใบหน้าเป็นพิเศษ เช่น นักแสดง เป็นต้น ค่าใช้จ่ายประมาณ 150 บาท

คุณ T_M_V ก็ควรปรึกษาวิธีการที่เหมาะสมกับแพทย์ที่ดูแลอยู่นะคะ