สามารถรักษาได้ค่ะ
แผลเป็นนูน มี 2 ชนิด คือ แผลเป็นนูน และแผลเป็นนูนชนิดคีลอยด์
- รอยแผลเป็นนูน (Hypertrophic Scar) มีลักษณะนูน แข็ง สีดำคล้ำหรือสีแดง ขนาดไม่ขยายใหญ่ขึ้นกว่าแผลเดิม
- รอยแผลเป็นนูนชนิดคีลอยด์ (Keloid) มีลักษณะนูน แดง แข็ง ยืดหยุ่นคล้ายยาง ผิวมัน มีเส้นเลือดมาเลี้ยง อาจมีอาการเจ็บคันร่วมด้วย รอยแผลมีแนวโน้มที่จะขยายใหญ่มากขึ้นเรื่อยๆ
การรักษาแผลเป็นนูน จะต้องขึ้นอยู่กับลักษณะและรายละเอียดของแผลที่เป็นด้วย เช่น ขนาด สี ความแข็ง ความนูน ตำแหน่ง ซึ่งการรักษาก็มีตั้งแต่ยาทา ยาฉีด เลเซอร์ และ Scarless Technique หรือใช้การรักษาหลายๆวิธีร่วมกัน ค่ารักษาขึ้นอยู่กับขนาดของแผลและเทคนิควิธีการรักษาค่ะ ลองมาพบแพทย์เพื่อให้คำแนะนำอย่างละเอียดดีกว่าค่ะ
แผลเป็นนูนชนิดคีลอยด์สามารถรักษาได้ ระยะเวลาและค่าใช้จ่ายขึ้นอยู่กับเทคนิควิธีการรักษาแต่ละวิธี ราชเทวีคลินิกมี Aesthetic Scar เป็นศูนย์บริการรักษารอยแผลเป็นทุกชนิด มีวิธีรักษารอยแผลเป็นนูนด้วยเทคนิควิธีต่างๆ ดังนี้ค่ะ
1. ฉีดยา หากรักษาด้วยการฉีดยาเพื่อรักษาคีลอยด์ สามารถเข้ารับบริการได้ทุกสาขา อัตราค่าบริการอยู่ที่ 500 - 1,000 บาทต่อครั้ง ขึ้นอยู่กับขนาดของคีลอยด์และปริมาณยาที่ใช้ค่ะ
2. Scarless Technique ราชเทวีคลินิกมีวิธีการรักษาคีลอยด์โดยใช้วิธี Scarless Technique เป็นการ Shave หรือใช้ CO2 LASER เป็นการทำลายเนื้อเยื่อผิวที่นูนออกให้เรียบ จากนั้นใช้ Scarless patch with Scarless solution ปิดบนแผลต่อ เพื่อหยุดการสร้างเนื้อเยื่อผิวใหม่บริเวณที่เคยเป็นคีลอยด์ โดยใช้ระยะเวลาในการรักษาประมาณ 1 เดือน หลังรักษาด้วยวิธีนี้พบว่าผิวที่เคยเป็นคีลอยด์มีโอกาสน้อยมากที่จะกลับมาเป็นซ้ำอีก อัตราค่าบริการเริ่มต้นที่ 9,000.-
การรักษาแผลเป็นหลุมที่ราชเทวีคลินิกมีหลายๆเทคนิควิธีด้วยกัน ในคนไข้บางรายอาจจะต้องใช้หลายวิธีร่วมกัน หากคุณต้องการจะทราบวิธีการรักษาที่จะใช้กับคุณคงต้องแนะนำให้คุณเข้าพบและปรึกษาคุณหมอโดยตรง เพื่อที่คุณหมอจะได้ตรวจวินิจฉัยจากสภาพผิวและรอยแผลเป็นหลุมจริง คุณหมอจึงจะประเมินและวางแผนการรักษาที่ถูกต้องจำเป็นและเหมาะสมกับคุณให้ค่ะ
ส่วนปัญหารอยแผลเป็นหลุมนั้น ราชเทวีคลินิกมี Aesthetic Scar ศูนย์ดูแลรักษาสิว รอยหลุมสิว รอยแผลเป็นนูน และคีลอยด์ โดยรอยหลุมนี้สามารถรักษาให้ดีขึ้นได้ด้วยการใช้เทคนิคการรักษาแบบ SR Technique & SM Technique ค่ะ
- SR Technique (Scar Reconstruction Technique) เป็นเทคนิคการผสมผสานวิธีการตกแต่งรอยแผลเป็นหลุมให้เรียบเสมอใกล้เคียงผิวปกติ ด้วยการผ่าตัดเล็ก เช่น Punch Excision, Punch Grafting, Subcision เป็นต้น ซึ่งเป็นวิธีที่คุณถามมา
- SM Technique (Scar Modulation Technique) เป็นเทคนิคการปรับผิวและฟื้นฟูสภาพผิวให้เรียบเนียน ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ เพิ่มความแข็งแรงให้แก่เซลล์ผิว ด้วยเลเซอร์ต่างๆ เช่น FineScan, Fractional CO2 เป็นต้น
การที่จะเลือกใช้วิธีการรักษาหรือเทคนิคการรักษาด้วยวิธีใดนั้น คุณหมอจะเป็นผู้พิจารณาเลือกใช้แต่ละเทคนิควิธีและเครื่องมือตามลักษณะและชนิดของรอยหลุมแผลเป็น ซึ่งในบางรอยหลุมอาจจะต้องใช้หลายๆเทคนิควิธีผสมผสานกัน และคุณหมอจะพิจารณาตามความจำเป็นและเหมาะสมกับคนไข้และรอยหลุมแต่ละรอย ค่ะ
รอยแผลเป็นหลุม ที่ใช้ SR Technique จะทำประมาณ 1 - 2 ครั้ง** รอยหลุมก็จะดีขึ้น
ส่วน SM Technique จะต้องทำประมาณ 5 - 10 ครั้ง** รอยหลุมจึงจะดีขึ้น
**ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับอายุ ความลึก ความกว้าง ลักษณะของรอยหลุมและการตอบสนองของแต่ละบุคคลด้วย และในคนไข้บางรายอาจจะต้องใช้หลายๆเทคนิควิธีการรักษาผสมผสานร่วมกัน และไม่ต้องพักฟื้นหลังทำการรักษา สามารถปฏิบัติตัวและไปทำงานได้ตามปกติคะ
อัตราค่าบริการ
- SR Technique เริ่มต้นที่จุดละ 500.- ขึ้นไปต่อครั้ง ขึ้นอยู่กับขนาด ความลึกของรอยหลุม เทคนิควิธีการรักษา รวมไปถึงความยากง่ายในการรักษาด้วยค่ะ หากเป็นรอยหลุมเยอะๆ สามารถคิดในราคาเหมาต่อครั้งได้
- SM Technique เฉพาะส่วน เริ่มต้นที่ครั้งละ 1,000.- / ทั่วหน้า เริ่มต้นที่ครั้งละ 3,000.- ค่ะ
แนะนำให้คุณลองมาเข้าพบและปรึกษาคุณหมอโดยตรง เพื่อที่คุณหมอจะได้ตรวจวินิจฉัยจากสภาพผิว และรอยแผลเป็นหลุมจริง คุณหมอจึงจะประเมินและวางแผนการรักษาที่ถูกต้องจำเป็นและเหมาะสมพร้อมกับประเมินค่าใช้จ่ายให้กับคุณด้วยค่ะ คุณสามารถเข้าพบและปรึกษาคุณหมอโดยตรงในสาขาที่คุณสะดวกดูก่อนได้เลยค่ะ เพื่อที่คุณหมอจะได้ตรวจวินิจฉัยจากสภาพผิวและชนิด/ลักษณะของรอยหลุมจริง คุณหมอจึงจะประเมินพร้อมวางแผนการรักษาที่ถูกต้องจำเป็นและเหมาะสมกับคุณให้ได้ค่ะ หรือโทรสอบถามก่อนก็ได้ค่ะ
แต่หากคุณสะดวกที่ราชเทวีคลินิก The Mastery สาขาเพลินจิต (กทม.) แนะนำให้พบ นพ.สุเทพ จิระสุทัศน์ คุณหมอลงตรวจที่สาขาเพลินจิต วันและเวลาตาม Link ด้านล่างนี้ค่ะ..
https://www.rcskinclinic.com/th/our-doctor/นพ-สุเทพ-จิระสุทัศน์.aspx
ลองมาพบและปรึกษาคุณหมอโดยตรงเพื่อประเมินการรักษาและค่าใช้จ่ายก่อนตัดสินใจทำได้ค่ะ