สิวเสี้ยน รูขุมขนกว้าง
ตอนนี้มีสิวเสี้ยน และ รูขุมขนกว้าง ตรงจมูกและหน้าแก้มข้างจมูก มีคอร์สทรีทเมนท์ตัวไหน หรือ คอร์สรักษาตัวไหนบ้างคะ หรือต้องเข้าพบแพทย์
คำถามที่:Q19439| จากคุณSira_kwan| 16/06/2560 00:00 น.
ปัจจุบันราชเทวีคลินิกมีเทคนิควิธีการรักษาสิวเสี้ยน คือ Tricho Peel หรือ TCP เป็นวิธีการลอกสิวเสี้ยนแบบใหม่ที่ได้ผลดี ด้วยประสิทธิภาพของ Tricho Solution ที่ช่วยละลายชั้นขี้ไคล ให้การอุดตันสิวเสี้ยนเกิดการหลวมตัว ทำให้ลอกออกได้ง่ายขึ้นมากขึ้น ผสานกับ Tricho Patch แผ่นลอกสิวเสี้ยนแบบใหม่ที่มีความยืดหยุ่น เนื้อเหนียวนุ่ม ดึงออกได้ง่าย จึงเพิ่มประสิทธิภาพการลอกสิวเสี้ยนให้ได้ผลดีมากยิ่งขึ้น อัตราค่าบริการลอกสิวเสี้ยน ด้วย Tricho Peel ครั้งละ 150.- ค่ะ

วิธี TCP นี้ช่วยให้สิวเสี้ยนลอกออกได้ง่ายขึ้น แต่ไม่ได้เป็นวิธีป้องกันไม่ให้เกิดสิวเสี้ยน การจะไม่ให้สิวเสี้ยนเกิดขึ้นอีกเป็นเรื่องค่อนข้างยาก เพราะฮอร์โมนในร่างกายเป็นตัวการที่กระตุ้นต่อมไขมันทำให้มีการผลิตไขมันออก มามากขึ้น ส่งเสริมให้เกิดการอุดตันตามรูขุมขนได้ง่ายขึ้น

นอกจากนี้การรบกวนผิวหน้ามากๆ เช่น การเช็ดถูหน้าแรงๆ การนวดหรือขัดหน้า จะเป็นการรบกวนรูขุมขนหรือต่อมไขมัน ทำให้รากขนแตกจึงคุดคู้อยู่ข้างในรูขุมขนได้มากขึ้นกลายเป็นหนามแหลมๆที่ใบหน้าได้ ฉะนั้นการใช้ยาและลอกสิวเสี้ยนด้วย Tricho Peel จึงเป็นทางออกที่ดีสำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องสิวเสี้ยนค่ะ 

ทั้งนี้ทั้งนั้นก่อนจะลอกสิวเสี้ยน ด้วย TCP (Tricho Peel) นั้นก็ต้องใช้ยาทายาก่อนอย่างน้อย 1 สัปดาห์ จึงจะลอกสิวเสี้ยนออก  แนะนำให้มาพบและปรึกษาคุณหมอได้เลยค่ะจะได้ปรึกษาคุณหมอเรื่องเม็ดเล็กๆที่หน้าด้วยว่าเป็นอะไรแน่ค่ะ คุณหมอจึงจะประเมินและวางแผนการรักษาที่ถูกต้องจำเป็นและเหมาะสมให้กับคุณได้ค่ะ

ส่วนปัญหาเรื่องรูขุมขุนกว้าง หรือการกระชับรูขุมขน นั้น การจะตอบคำถามนี้ได้คงต้องมาทำความเข้าใจกับธรรมชาติของผิวกันก่อนนะคะ

รูขุมขนกว้างเป็นลักษณะของผิวหนังที่พบได้บ่อย แต่ไม่ถือว่าเป็นโรคทางผิวหนังหรือก่อให้เกิดอันตราย เพียงแต่อาจจะสร้างปัญหาทางความสวยงามได้

ผิวหนังของคนเราจะมีท่อเปิดออกสู่ผิวหนังอยู่ 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ ท่อเปิดต่อมเหงื่อ และท่อเปิดรูขุมขน ซึ่งท่อเปิดชนิดหลังนี้จะเป็นตำแหน่งที่ขนงอกขึ้นมา และเป็นท่อที่ระบายไขมันที่สร้างจากต่อม Sebaceous Gland ด้วยท่อรูขุมขนจะมีขนาดโตมากน้อยแตกต่างกันในแต่ละคน ขึ้นอยู่กับ..
      1. อายุ เมื่ออายุมากกว่า 20 ปีขึ้นไป รูขุมขนจะมีโอกาสโตมากขึ้นตามธรรมชาติของผิว
      2. ลักษณะผิว เช่น กรณีที่ต่อม Sebaceous Gland ทำงานผลิตไขมันมาก โอกาสที่รูขุมขนกว้างก็จะมีมากขึ้น เมื่อเทียบกับผู้ที่ต่อม Sebaceous Gland ทำงานน้อยกว่า

ในความเป็นจริงแล้ว.. ลักษณะผิวแต่ละแบบได้ถูกกำหนดมาแล้วจากพันธุกรรมของแต่ละคน ในปัจจุบันนี้ยังไม่มีวิธีใดที่จะสามารถลดขนาดรูขุมขนได้อย่างถาวร แต่ก็มีหลายวิธีที่ช่วยบรรเทาปัญหานี้ เช่น
      (1) ใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ช่วยเพิ่มระดับ Collagen และ Elastin ในผิว เช่น กลุ่มวิตามิน C, Retinol
      (2) ลดปริมาณน้ำมันบนผิวและผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วซึ่งเป็นตัวที่จะอุดตันในรู ขุมขนและทำให้รูขุมขนดูกว้างขึ้น ด้วยผลิตภัณฑ์ที่มี Alpha Hydroxyl Acid (AHA) เป็นส่วนประกอบ (การทำ AHA treatment จึงเป็นวิธีหนึ่งในการแก้ไขปัญหารูขุมขนกว้างได้)
      (3) การใช้ผลิตภัณฑ์กลุ่มที่ผสม Salicylic Acid ซึ่งทำงานคล้ายในกลุ่ม AHA
      (4) การใช้ผลิตภัณฑ์กลุ่ม Oil Control เพื่อควบคุมการผลิตน้ำมันส่วนเกิน
      (5) การใช้เครื่องมือที่กระตุ้น Collagen และ Elastin ใต้ผิว เช่น Nd:YAG LASER, IPL เป็นต้น Collagen และ Elastin ที่ถูกกระตุ้นให้สร้างเพิ่มขึ้นจะช่วยให้ผิวกระชับขึ้น และส่งผลให้รูขุมขนดูกระชับขึ้นด้วย

การทำ Treatment อย่างสม่ำเสมอเป็นการช่วยคงสภาพผิวที่ดีหลังการทำ Treatment ไว้ แต่การที่รูขุมขนจะกระชับได้มากน้อยหรือยาวนานแค่ไหนนั้นยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก เช่น อายุ อากาศ หรือสภาพแวดล้อม การเผชิญกับแสงแดด เป็นต้น

อย่างไรก็ตามแต่ละวิธีก็อาจจะมีข้อบ่งชี้และข้อควรระวัง ในการใช้ที่แตกต่างกันไปตามสภาพผิวของแต่ละคน ดังนั้น ควรปรึกษาแพทย์ที่ดูแลคุณอยู่โดยตรงเพื่อเลือกวิธีที่เหมาะสมกับคุณค่ะ ค่าใช้จ่ายก็ขึ้นอยู่กับยาที่ได้รับ ทรีทเมนท์หรือหัตถการ(เลเซอร์ต่างๆ)ที่ทำ ค่ะ  (อัตราค่าบริการด้วยเลเซอร์ทั่วหน้า เริ่มต้นที่ 3,000 - 5,000 บาทต่อครั้งค่ะ)

แนะนำให้คุณลองมาเข้าพบและปรึกษาคุณหมอที่ดูแลคุณอยู่โดยตรง  เพื่อที่คุณหมอจะได้ตรวจวินิจฉัยจากสภาพผิวและรอยหลุมจากสิวจริง คุณหมอจึงจะประเมินและวางแผนการรักษาที่ถูกต้องจำเป็นและเหมาะสมให้กับคุณได้ค่ะ
ตอบโดย:ราชเทวีคลินิก| วันที่ 16/06/2560

จาก: 0 คน
VIEWS
4987