รูขมขนกว้าง
ผมมีปัญหารูขุมขนกว้างบริเวณ2ข้างแก้มและจมูก อยากทราบราคารักษาครับ
คำถามที่:Q16704| จากคุณohpes1111122222| 31/05/2557 00:00 น.
ปัญหาเรื่องรูขุมขุนกว้าง หรือการกระชับรูขุมขนนั้น การจะตอบคำถามนี้ได้ คงต้องมาทำความเข้าใจกับธรรมชาติของผิวกันก่อนนะครับ

รูขุมขนกว้าง เป็นลักษณะของผิวหนังที่พบได้บ่อย แต่ไม่ถือว่าเป็นโรคทางผิวหนังหรือก่อให้เกิดอันตราย เพียงแต่อาจจะสร้างปัญหาทางความสวยงามได้

ผิวหนังของคนเราจะมีท่อเปิดออกสู่ผิวหนังอยู่ 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ ท่อเปิดต่อมเหงื่อ และ ท่อเปิดรูขุมขน ซึ่งท่อเปิดชนิดหลังนี้จะเป็นตำแหน่งที่ขนงอกขึ้นมาและเป็นท่อที่ระบายไขมันที่สร้างจากต่อม Sebaceous Gland ด้วย ท่อรูขุมขนจะมีขนาดโตมากน้อยแตกต่างกันในแต่ละคน ขึ้นอยู่กับ
1) อายุ เมื่ออายุมากกว่า 20 ปีขึ้นไป รูขุมขนจะมีโอกาสโตมากขึ้นตามธรรมชาติของผิว
2) ลักษณะผิว เช่น กรณีที่ต่อม Sebaceous Gland ทำงานผลิตไขมันมาก โอกาสที่รูขุมขนกว้างก็จะมีมากขึ้น เมื่อเทียบกับผู้ที่ต่อม Sebaceous Gland ทำงานน้อยกว่า

ในความเป็นจริงแล้ว ลักษณะผิวแต่ละแบบได้ถูกกำหนดมาแล้วจากพันธุกรรมของแต่ละคน ในปัจจุบันนี้ยังไม่มีวิธีใดที่จะสามารถลดขนาดรูขุมขนได้อย่างถาวร แต่ก็มีหลายวิธีที่ช่วยบรรเทาปัญหานี้ เช่น
(1) ใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ช่วยเพิ่มระดับ Collagen และ Elastin ในผิว เช่น กลุ่มวิตามิน C, Retinol
(2) ลดปริมาณน้ำมันบนผิวและผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วซึ่งเป็นตัวที่จะอุดตันในรูขุมขนและทำให้รูขุมขนดูกว้างขึ้น ด้วยผลิตภัณฑ์ที่มี Alpha Hydroxyl Acid ( AHA ) เป็นส่วนประกอบ (การทำ AHA treatment จึงเป็นวิธีหนึ่งในการแก้ไขปัญหารูขุมขนกว้างได้)
(3) การใช้ผลิตภัณฑ์กลุ่มที่ผสม Salicylic Acid ซึ่งทำงานคล้ายในกลุ่ม AHA
(4) การใช้ผลิตภัณฑ์กลุ่ม Oil Control เพื่อควบคุมการผลิตน้ำมันส่วนเกิน
(5) การใช้เครื่องมือที่กระตุ้น Collagen และ Elastin ใต้ผิว เช่น Nd:YAG LASER, IPL เป็นต้น Collagen และ Elastin ที่ถูกกระตุ้นให้สร้างเพิ่มขึ้นจะช่วยให้ผิวกระชับขึ้นและส่งผลให้รูขุมขนดูกระชับขึ้นด้วย

การทำ Treatment อย่างสม่ำเสมอ เป็นการช่วยคงสภาพผิวที่ดีหลังการทำ Treatment ไว้ แต่การที่รูขุมขนจะกระชับได้มากน้อยหรือยาวนานแค่ไหนนั้น ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก เช่น อายุ อากาศ หรือสภาพแวดล้อม การเผชิญกับแสงแดด เป็นต้น

อย่างไรก็ตามแต่ละวิธีก็อาจจะมีข้อบ่งชี้และข้อควรระวังในการใช้ที่แตกต่างกันไปตามสภาพผิวของแต่ละคน ดังนั้น ควรปรึกษาแพทย์เพื่อเลือกวิธีที่เหมาะสมกับคุณ ครับ
ตอบโดย:ราชเทวีคลินิก| วันที่ 02/06/2557

จาก: 0 คน
VIEWS
1676