รอยแผลเป็นจากฝี
อยากทราบว่า จะมีวิธีไหนบ้างค่ะที่จะช่วยรักษา รอยแผลเป็นดำ และเป็นหลุม และมีก้อนเนื้อนูน จากการที่เป็นฝีค่ะ ดิฉันเป็นโรคผิวหนังชนิดนี้มาเป็นสิบกว่าปีแล้วค่ะ ใช้ยารักษาอะไรก็ไม่หาย อาจจะจางลงไปบ้าง แต่เพราะรอยแผลเป็นเกิดที่ก้น และขยายวงกว้างไปทั่วก้นเลยค่ะ น่าเกลียดมาก .. อยากทราบว่า สามารถจะรักษาให้หายขาดโดยที่ไม่เกิดรอยแผลเป็นดำ รอยหลุมนี้อีกเลยจะได้มั้ยค่ะ แล้วมีวิธีรักษาอย่างไรบ้าง อยากทราบค่าใช้จ่ายคร่าวๆ ประมาณๆ ด้วยได้มั้ยคะ เพราะมันเป็นเยอะมากเหมือนกันค่ะ ขอบคุณน่ะค่ะ...
คำถามที่:Q12960| จากคุณหนู๋ส้มจี๊ดส์| 29/11/2554 00:00 น.

คุณพรนรินทร์ เป็นรอยแผลเป็นหลายชนิดด้วยกัน ทั้งรอยดำ รอยหลุม และรอยนูน ซึ่งเทคนิควิธีการรักษาในรอยแผลเป็นแต่ละชนิดก็ต่างๆ กันไป และในคนไข้บางรายอาจจะต้องใช้หลายๆวิธีผสมผสานกันค่ะ

     - รอยดำ รักษาโดยการทายา ทำทรีทเมนท์เสริมการรักษา ทำหัตถการ (เลเซอร์ต่างๆ)

     - รอยแผลเป็นหลุม รักษาโดยการทำเลเซอร์ และ SR Technique (Scar Reconstruction Technique) เป็นเทคนิคการผสมผสานวิธีการตกแต่งรอยแผลเป็นหลุม ให้เรียบเสมอใกล้เคียงผิวปกติ อัตราค่าบริการเริ่มต้นที่ 500.- ต่อจุด

     - รอยแผลเป็นนูน รักษาได้โดย

1. ฉีดยา หากรักษาด้วยการฉีดยาเพื่อรักษาคีลอยด์ สามารถเข้ารับบริการได้ทุกสาขา อัตราค่าบริการอยู่ที่ 100 - 1,000 บาท ขึ้นอยู่กับขนาดของคีลอยด์และปริมาณยาที่ใช้ค่ะ

2. Scarless Technique ปัจจุบันนี้ราชเทวีคลินิกมีวิธีการรักษาคีลอยด์แบบใหม่ โดยใช้วิธี Scarless Technique เป็นการ Shave หรือใช้ CO2 LASER เป็นการทำลายเนื้อเยื่อผิวที่นูนออกให้เรียบ จากนั้นใช้ Scarless patch with Scarless solution ปิดบนแผลต่อ เพื่อหยุดการสร้างเนื้อเยื่อผิวใหม่บริเวณที่เคยเป็นคีลอยด์ โดยใช้ระยะเวลาในการรักษาประมาณ 1 เดือน หลังรักษาด้วยวิธีนี้พบว่าผิวที่เคยเป็นคีลอยด์มีโอกาสน้อยมากที่จะกลับมาเป็นซ้ำอีก อัตราค่าบริการเริ่มต้นที่ 9,000.- ขณะนี้มีให้บริการที่ Aesthetic Scar Center ศูนย์ดูแลรักษารอยแผลเป็นต่างๆ ทุกชนิด ซึ่งศูนย์นี้อยู่ในราชเทวีคลินิก สาขาเพลินจิต

3. SM  Technique  หรือ Scar Modulation Technique เป็นเทคนิคการปรับผิวและฟื้นฟูสภาพผิวให้เรียน เนียน  ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ และเพิ่มความแข็งแรงให้แก่เซลล์ผิว

ทั้งนี้ทั้งนั้นอัตราค่าบริการขึ้นอยู่กับยาที่ได้รับ ทรีทเมนท์และหัตถการต่างๆ ที่ทำค่ะ  แนะนำให้ปรึกษาคุณหมอเพื่อให้คุณหมอตรวจวินิจฉัย ประเมิน และวางแผนการรักษาที่จำเป็นและเหมาะสมให้ต่อไปค่ะ

ตอบโดย:ราชเทวีคลินิก| วันที่ 04/12/2554

จาก: 0 คน
VIEWS
30499