G Protein และ Homeostasis ดีต่อผิวคุณอย่างไร
วันที่ 09 ธ.ค. 2555 | โดย ราชเทวีคลินิก


ผู้หญิงเราล้วนใฝ่ฝันที่จะมีผิวพรรณสวยงามนวลเนียน สีผิวใสสม่ำเสมอ ไร้สิว ริ้วรอย ฝ้า กระ รอยหมองคล้ำ  และปรารถนาที่จะดูอ่อนเยาว์ไปนานแสนนาน...
 
แต่...ศัตรูตัวร้ายที่ทำลายฝันหวานของสาวๆ ก็มีมากมายหลายปัจจัยเลยทีเดียว  ไม่ว่าจะเป็น มลภาวะ  แสงแดด  ความเครียดในชีวิตประจำวัน  อายุที่มากขึ้นตามกาลเวลา  หรือแม้แต่ฮอร์โมนในร่างกายเราเอง  ซึ่งล้วนแต่เป็นตัวการทำให้เกิดปัญหาผิวพรรณต่างๆ ได้ทั้งสิ้น  จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่ผู้หญิงจำนวนไม่น้อยในสมัยนี้จะเฟ้นหาวิธีในการดูแลปรนนิบัติผิว  เพื่อคงผิวสวยให้อยู่กับเราได้ยาวนานที่สุด  ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวต่างๆ  ไปจนถึงสารพัดวิธีการที่จะทำให้ปัญหาผิวพรรณหมดไป

Homeostasis เป็นกระบวนการในการปรับตัวเพื่อทำให้เซลล์ทำงานได้ตามปกติ  เพื่อคงสภาพผิวให้มีสุขภาพดีได้อย่างยั่งยืน  โดยเน้นที่ต้นทางกับการป้องกันด้วยวิธีดูแลผิวที่เรียกว่า การปรับดุลยภาพของผิว หรือ Homeostatic Approach หลักการนี้ “ไม่ใช้ยา” ในการดูแล เพราะกระบวนการเรื่องดุลยภาพนั้นหมายถึงการปรับตัวของเซลล์ เนื้อเยื่อ หรืออวัยวะของสิ่งมีชีวิตชั้นสูงเพื่อให้ทำงานได้ตามปกติแม้จะมีภาวะคุกคามหรือภาวะเครียด  โดยการปรับเปลี่ยนภาวะนั้นๆให้กลับสู่สภาวะพื้นฐาน ทำให้ได้ประสิทธิผลยาวนานและปลอดภัย 

G - Protein คือ ส่วนสำคัญของการทำงานชั้นลึกในระดับเซลล์  มีผลต่อการรับรหัสสัญญาณ  เป็นตัวรับรหัสสัญญาณของเซลล์ประเภทโปรตีน ส่งผลให้เกิดการสื่อสารของเซลล์แล้วทำให้เกิดการรับรู้ เรียนรู้ และมีวิวัฒนาการจนเซลล์เกิดความสมดุลทางดุลยภาพ ถ้าเรารักษาดุลยภาพของเซลล์ได้แล้วก็จะสามารถหยุดการลุกลามจากภาวะคุกคามต่างๆ ที่เข้าสู่ร่างกายจนทำให้เกิดปัญหาผิวพรรณได้นั่นเอง 

G Protein

การค้นพบ G - Protein ช่วยให้เกิดมิติใหม่ในการแก้ปัญหาสุขภาพผิวพรรณอย่างมีประสิทธิผลและปลอดภัย ราชเทวีคลินิก จึงใช้กระบวนการ Code Blocker และ Code Booster ของ G - Protein ตามหลักการ Homeostasis มาพัฒนาผลิตภัณฑ์และทรีทเมนท์เพื่อดูแลและแก้ไขปัญหาผิวพรรณต่างๆ  เมื่อใดก็ตามที่เซลล์ผิวเกิดมีภาวะคุกคามหรือได้รับผลกระทบจากปัจจัยแวดล้อม เช่น ฮอร์โมน ความเครียด แสงแดด ฯลฯ  เมื่อนั้นปัญหาผิวพรรณก็จะตามมา  และเมื่อเกิดปัญหาผิวพรรณต่างๆ เราก็สามารถช่วยให้ผิวพรรณกลับคืนมาสู่จุดดุลยภาพ  ด้วยการแก้ไขปัญหาผิวพรรณที่แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ
 
Code Blocker : การยับยั้งรหัสสัญญาณ  เป็นการยับยั้งกระบวนการแปลงรหัสสัญญาณ (Code) ที่ไม่ดี Code Blocker จะขัดขวางทำให้รหัสคำสั่งที่ไม่ดีนั้นลดลงหรือไม่สามารถตอบสนองได้
 
Code Booster : การกระตุ้นรหัสสัญญาณ  การปรับดุลยภาพนั้นอาจจะต้องอาศัยการส่งเสริมเพื่อกระตุ้นให้มีรหัสสัญญาณที่ดีมากขึ้น  แล้วส่งเสริมการทำงานต่างๆ ให้กลับมาเป็นปกติ

Homeostatic Approach

โดยการใช้ผลิตภัณฑ์และทรีทเมนท์กลุ่ม Homeostasis ให้ครบทั้ง 4 มิติ (4D) คือ ปกป้อง ส่งเสริม ฟื้นฟู แก้ไข  ทั้งนี้ เพราะการใช้ผลิตภัณฑ์และทรีทเมนท์กลุ่ม Homeostasis ในการปรับดุลยภาพเป็นวิธีที่ทำให้ลดผลกระทบที่เกิดจากภาวะคุกคามต่างๆ นั่นเอง

D1 ปกป้อง ผิว คือ การป้องกันผิวจากสิ่งแวดล้อมต่างๆที่มาคุกคามหรือกระตุ้นการส่งสัญญาณไปทำลายเซลล์ผิว เช่น การใช้ผลิตภัณฑ์กันแดด (SSB, WRS เป็นต้น)
 
D2 ส่งเสริม หรือ ดูแลผิว คือ การเพิ่มเติมสภาพความสมบูรณ์และความพร้อมของเซลล์ผิว หรือการบำรุงเซลล์ผิวให้แข็งแรง เช่น การใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวต่างๆ (ผลิตภัณฑ์กลุ่ม Aloe, Nourishing Gel, HA Complex  และการทำทรีทเมนท์ต่างๆ เป็นต้น)

D3 ฟื้นฟู หรือ ปรับปรุงเซลล์ผิว คือ การฟื้นฟูเซลล์ผิวที่ได้รับผลกระทบจากสิ่งแวดล้อมต่างๆ ทำให้เกิดสภาพความบอบช้ำ หรือเมื่อเซลล์ผิวเสียดุลยภาพไปแล้วให้กลับมามีสุขภาพดีคืนสู่ดุลยภาพ เช่น การใช้ผลิตภัณฑ์ฟื้นฟูเซลล์ผิว ผลิตภัณฑ์ลดเลือนและชะลอริ้วรอย (Intensive Face Serum, Age Defiance, Revital Eye Serum เป็นต้น)

D4 แก้ไข ปัญหาผิว คือ การเร่งการแก้ปัญหาผิวรวมไปถึงการป้องกันการเกิดปัญหาผิวใหม่ ด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีสารยับยั้งสัญญาณ (Code Blocker) และสารกระตุ้นสัญญาณ (Code Booster) เช่น ผลิตภัณฑ์เพื่อป้องกันสิว (Acne Clear Cleanser, Sebum Control, Eco Balanced) ผลิตภัณฑ์ลดเลือนรอยดำ ฝ้า กระ รอยหมองคล้ำ (กลุ่ม LAX1, กลุ่ม LAX3, Whitening D, HF/W, HP/W เป็นต้น) รวมถึงการใช้เทคโนโลยีและเครื่องเลเซอร์ในการรักษาเพื่อให้เห็นผลเร็วขึ้น
 
คลิปแสดงกลไกการทำงาน 
 
คัดลอกแล้ว
จาก 2 คน
VIEWS
10164
TAGS: