สิวเปรอะ vs สิวประปราย คืออะไร
วันที่ 15 ต.ค. 2567
| โดย
ราชเทวีคลินิก
มาทำความรู้จักพร้อมเข้าใจความแตกต่างของสิวเปรอะและสิวประปราย รวมถึงผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้น
สิวเปรอะ (Whole Face Acne) : เมื่อสิวทุกชนิดรวมตัวกันบนใบหน้า
สิวเปรอะ หมายถึง การเกิดสิวทุกประเภทบนใบหน้ารวมกันตั้งแต่ 10 เม็ดขึ้นไป ไม่ว่าจะเป็นสิวอุดตันรวมไปถึงสิวอักเสบระดับต่างๆ (ไทป์ 1-4) เมื่อจำนวนสิวมีการสะสมมากขึ้น นอกจากจะทำให้ผิวดูไม่เรียบเนียน และสูญเสียความสวยงามแล้ว ยังเสี่ยงต่อการเกิดแผลใต้ผิวที่อาจรุนแรงได้ หากปล่อยทิ้งไว้อาจเกิดการอักเสบลุกลาม ทำให้การรักษาใช้เวลานานและเสี่ยงต่อผลข้างเคียง เช่น รอยแดง รอยดำ แผลเป็นนูน หรือแผลหลุมสิว ที่อาจทิ้งร่องรอยไว้บนผิวยาวนานและรักษายาก
การจัดการสิวเปรอะอย่างถูกวิธีตั้งแต่เนิ่นๆ จึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อหยุดปัญหาก่อนจะบานปลายและคืนความเรียบเนียนให้กับผิวของคุณ
สิวประปราย (Localized Acne) : ปัญหาสิวเล็กน้อย แต่ไม่ควรมองข้าม
สิวประปราย หมายถึง การเกิดสิวทุกประเภทบนใบหน้ารวมกันน้อยกว่า 10 เม็ด ไม่ว่าจะเป็นสิวอุดตัน หรือสิวอักเสบระดับต่างๆ (ไทป์ 1-4) แม้จำนวนสิวจะดูไม่มาก แต่หากปล่อยไว้โดยไม่ดูแลอย่างเหมาะสม อาจทำให้เกิดปัญหาตามมา เช่น รอยแดง รอยดำ หรือการอักเสบที่ลุกลามกลายเป็นสิวเปรอะได้
การจัดการสิวตั้งแต่ระยะแรกจึงสำคัญ เพราะนอกจากจะช่วยป้องกันการลุกลามแล้ว ยังช่วยลดโอกาสเกิดร่องรอยและผลข้างเคียงที่อาจส่งผลต่อความมั่นใจในระยะยาว
ทำไมสิวเปรอะถึงรักษาได้ยาก?
จากงานวิจัยพบว่าการเกิดสิวทุกชนิดเกี่ยวข้องกับการอักเสบสองชั้น ทั้งจากผิวภายนอกและใต้ผิว ส่งผลให้การรักษาต้องใช้เวลานานกว่าการหายเองตามธรรมชาติ เมื่อเกิดเม็ดสิวปริมาณมากโอกาสที่จะเกิดสิวอักเสบรุนแรง (ไทป์ 3 และไทป์ 4) ก็ยิ่งสูง ทำให้การรักษาซับซ้อนและใช้เวลามากขึ้นเมื่อเทียบกับกรณีที่มีสิวเพียงเล็กน้อย

เมื่อสิวเกิดการอักเสบจะเกิดแผลใต้สิวตามมา ซึ่งลักษณะของแผลจะแตกต่างกันไปตามระดับและประเภทของการอักเสบ ดังนี้
สิวอักเสบไทป์ 1 (Acne type 1) หรือสิวอุดตัน ลักษณะเป็นสิวที่มีเม็ดสีเดียวกับสีผิว (Skin Color) อาจจะเป็นได้ทั้งสิวหัวขาว (Closed comedones) และสิวหัวดำ (Open comedones) การอักเสบของสิวชนิดนี้จะมีการแบ่งตัวของเซลล์หนังกำพร้า (Keratinocyte) ในรูขุมขนเพิ่มมากขึ้นจนดันผนังท่อต่อมไขมัน ทำให้ผนังท่อต่อมไขมันเกิดการซึม เปรียบได้เหมือนเป็นแผลผิวแห้งแตก (Cracked skin) อยู่ใต้สิว สิวชนิดนี้มักจะคงอยู่นานเป็นเวลาหลายเดือนหรือพัฒนากลายเป็นสิวอักเสบไทป์ 2 (Acne type 2)
สิวอักเสบไทป์ 2 (Acne type 2) หรือสิวปุ๊บปั๊บ เป็นสิวเม็ดสีชมพูระเรื่อๆ หรือแดงอ่อนๆ เกิดจากการอักเสบเพิ่มขึ้นของสิวอักเสบไทป์ 1 จนมีขนาดใหญ่ขึ้น การอักเสบนี้ทำให้เกิดการรั่วเป็นแผลขนาดเล็กที่ผนังท่อต่อมไขมัน เปรียบได้เหมือนกับแผลถลอก (Abrasion wound) อยู่ใต้สิว ซึ่งสิวชนิดนี้มีการเกิดค่อนข้างรวดเร็ว และอยู่ไม่เกิน 2-3 วัน เวลาหายจะไม่ทิ้งร่องรอยไว้เลย แต่ถ้าหากไม่ยุบเอง สิวชนิดนี้ก็จะกลายไปเป็นสิวอักเสบไทป์ 3 (Acne type 3)
สิวอักเสบไทป์ 3 (Acne type 3) หรือสิวอักเสบชนิดรุนแรง ลักษณะจะมีสีแดงและบางครั้งมีหัวหนอง มีขนาดเล็กกว่า 5 มิลลิเมตร พัฒนามาจากสิวอักเสบไทป์ 2 การอักเสบทำให้ส่วนบนของผนังท่อต่อมไขมันเกิดการแตกเป็นแผลขนาดใหญ่ เปรียบได้เหมือนแผลมีดบาดตื้นๆ (Superficial Cut wound) อยู่ใต้สิว สิวชนิดนี้เกิดได้อย่างรวดเร็ว และอยู่เป็นเวลานานหลายสัปดาห์ เมื่อเกิดกระบวนการหายของแผล (wound healing) จะมีการสร้างเส้นเลือดฝอยใหม่ จึงมักจะทิ้งรอยแดงไว้บนผิวอีกระยะหนึ่ง
สิวอักเสบไทป์ 4 (Acne type 4) หรือสิวอักเสบเม็ดใหญ่/สิวหัวช้าง ขนาดใหญ่กว่า 5 มิลลิเมตร เกิดจากสิวอักเสบไทป์ 2 ที่อักเสบมากขึ้น ทำให้เกิดการแตกเป็นแผลใหญ่มากที่ผนังท่อต่อมไขมันส่วนกลางหรือส่วนล่าง เปรียบเหมือนเป็นแผลเปิดใหญ่ลึก (Deep open wound) อยู่ใต้สิว การอักเสบของสิวชนิดนี้เกิดจากแผลที่รุนแรง เกิดมีการเสียหายของเนื้อเยื่อ และเมื่อเกิดกระบวนการหายของแผล (Wound healing) จะมีการสร้างเส้นเลือดฝอยและเนื้อเยื่อใหม่ซึ่งจะใช้เวลานาน และเป็นอยู่นานกว่าสิวชนิดอื่น เวลายุบก็จะมีรอยแดง หากรักษาไม่ดีพอจะมีโอกาสในการเกิดแผลเป็น (Acne Scar)
ภาพการศีกษาชิ้นเนื้อของสิวอักเสบไทป์ 3 ที่แสดงแผลใต้สิว
“ พบเม็ดเลือดขาวจำนวนมากอยู่รอบๆ รูขุมขนที่มีการแตกเป็นแผล (ลูกศรชี้) บริเวณส่วนบนและส่วนล่างของชั้นหนังแท้ ”
มาตรฐานอ้างอิง (Gold Standard) ในการกำจัดสิวทุกชนิดบนใบหน้า
การรักษาสิวอักเสบมีเป้าหมายเพื่อลดความรุนแรงของสิว โดยรักษาสิวทุกชนิดทั่วใบหน้า (สิวเปรอะ) ให้หมดไป หรืออย่างน้อยลดลงเหลือเป็นสิวประปราย (น้อยกว่า 10 เม็ด) ภายในระยะเวลา 8-12 สัปดาห์ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน จำเป็นต้องกดสิวเก่าออกทุก 1-2 สัปดาห์ควบคู่ไปด้วย
แนวทางการรักษาสิวเปรอะ และสิวประปราย
การรักษาสิวเปรอะ
การรักษาสิวเปรอะต้องเน้นลดความรุนแรงและจำนวนสิวให้น้อยที่สุดภายใน 8-12 สัปดาห์ เพื่อลดความเสียหายต่อผิว เนื่องจากจำนวนสิวที่มากมักนำไปสู่การอักเสบที่รุนแรงตามมา การรักษาที่มีประสิทธิภาพต้องควบคู่ไปกับการลดการอักเสบของสิวและแผลใต้สิว เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี
ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัตินี้ ได้แก่ Acne Clear หรือ Acne Clear Lotion และ Advanced Negative Lotion ซึ่งจากการวิจัยพบว่าสามารถลดสิวอักเสบได้ถึง 95% ภายใน 7 วัน ในขณะที่ผลิตภัณฑ์ทั่วไปที่ไม่รักษาแผลใต้สิวได้ผลเพียง 75% นอกจากนี้ ควรทำร่วมกับการกดสิวอุดตันออกทุก 1-2 สัปดาห์อย่างสม่ำเสมอ เพื่อช่วยเร่งให้สิวหายตามกำหนดเวลาและควบคุมปริมาณสิวไม่ให้เพิ่มขึ้น
การรักษาสิวประปราย
สำหรับสิวประปราย ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเร่งให้สิวอักเสบยุบราบใน 7 วัน เพื่อลดโอกาสเกิดรอยแดง รอยดำ และแผลใต้สิว อีกทั้งยังช่วยป้องกันไม่ให้สิวลุกลามหรือกลับมาเป็นซ้ำจนกลายเป็นปัญหายาวนาน
ประโยชน์ของการรักษาแผลใต้สิว
จากการวิจัยพบว่า การรักษาสิวร่วมกับแผลใต้สิวให้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพมากกว่า เมื่อเปรียบเทียบการใช้ผลิตภัณฑ์รักษาสิวเพียงอย่างเดียวกับผลิตภัณฑ์ที่ดูแลทั้งสิวและแผลใต้สิว ผลลัพธ์ชี้ว่า
รักษาสิวอย่างเดียว : สิวอักเสบไทป์ 3 จำนวน 10 เม็ด จะยุบราบได้ 7 เม็ดภายใน 7 วัน
รักษาสิวควบคู่กับแผลใต้สิว : สิว 10 เม็ดสามารถยุบราบได้ถึง 9 เม็ดในระยะเวลาเดียวกัน
“ การรักษาแบบผสมผสานนี้ไม่เพียงช่วยให้สิวยุบตัวเร็วขึ้น แต่ยังลดความเสี่ยงของการเกิดรอยแดง รอยดำ และรอยแผลเป็น ทำให้ระยะเวลาการรักษาสั้นลงอย่างมีนัยสำคัญ ”
สิวประปรายและสิวอักเสบหายเร็วขึ้นเมื่อดูแลครบวงจร การอักเสบใต้สิวเป็นปัจจัยที่ทำให้การรักษายืดเยื้อ หากปล่อยแผลใต้สิวไว้โดยไม่ดูแล จะทำให้สิวใช้เวลาหายนานขึ้น แต่หากรักษาสิวและแผลใต้สิวพร้อมกัน ผลวิจัยระบุว่าสิวจะยุบลงได้มากถึง 94% เมื่อเทียบกับ 75% จากการรักษาสิวอย่างเดียว
ดังนั้นการรักษาได้อย่างรวดเร็วและครอบคลุมจะช่วยป้องกันการเกิดรอยแดงและรอยดำ ทำให้ผิวฟื้นฟูได้อย่างเรียบเนียนและไร้ร่องรอย
ตารางเปรียบเทียบผลลัพธ์การรักษาด้วยผลิตภัณฑ์รักษาสิว (Acne Research Results)
รายการ |
จำนวนเม็ดสิวทั้งหมด |
เม็ดสิวอักเสบที่เกิดใหม่ |
เม็ดสิวแผลขนาดใหญ่ที่เกิดใหม่ |
สิวแผลขนาดใหญ่ที่ยุบตามกำหนด 7 วัน |
ร้อยละ |
ผลิตภัณฑ์รักษาแต่สิว (A) |
319 |
73 |
41 |
31 |
75.61 |
ผลิตภัณฑ์รักษาสิว และแผลใต้สิว (B) |
433 |
83 |
55 |
52 |
94.55 |
ผลการศึกษาเปรียบเทียบการรักษาสิวอักเสบที่เกิดใหม่
จากการติดตามผลการรักษาสิวอักเสบที่เกิดใหม่ พบว่า ผลิตภัณฑ์รักษาสิวควบคู่กับแผลใต้สิว (B) มีประสิทธิภาพสูงกว่าในการช่วยให้สิวยุบภายใน 7 วัน เมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์ที่รักษาเฉพาะสิว (A)
* จากจำนวนสิวอักเสบทั้งหมด 752 เม็ด เป็นสิวที่เกิดใหม่ทั้งหมด 156 เม็ด ศึกษาเพื่อติดตามการรักษาไม่ให้มีรอยแดงรอยดำจากสิวหากสิวยุบภายในเวลาที่กำหนด
ยาทารักษาสิวแบบ Precision vs Conventional
Precision Medicine หลักการแพทย์แม่นยำ เป็นการแก้ปัญหาลึกถึงต้นตอ สามารถพิสูจน์และวัดผลได้ ประกอบด้วย
การคืนความปกติ (Root Cause) หรือ การแก้ไข
การเร่งให้หายเร็วขึ้น (Contributing) หรือ การปรับปรุง
การลดโอกาสเกิดซ้ำ (Predisposing) หรือ การปกป้อง
การส่งเสริม /สนับสนุน (Supporting) หรือ การดูแล
ยาทา Precision ไม่เพียงแต่มีความเฉพาะเจาะจงในการรักษาสิวอย่างแม่นยำ ยังสามารถรักษาไปถึงแผลใต้สิวอันเป็นสาเหตุสำคัญ จึงทำให้การรักษาสิวมีประสิมธิภาพดีและเห็นผลเร็ว
ผลิตภัณฑ์ Comedone Minimizer หรือ Comedone Control Mattifier แก้ไขปัญหาสิวช่วย Block การก่อตัวการสะสมของสิวอุดตัน จึงทำให้ Comedones ฝ่อเล็กลง รักษาแผลใต้สิวตั้งแต่เริ่มเกิดการซึมของท่อรูขุมขน
ผลิตภัณฑ์ Acne Touch Type II แก้ไขต้นเหตุของการเกิดสิว TYPE 2 ด้วยการ Block Code Acne TYPE 2 และรักษาแผลใต้สิวที่เกิดจากการรั่วของท่อรูขุมขนให้สมานเร็ว สิวยุบเร็วใน 2-3 วัน
ผลิตภัณฑ์ Acne Clear Lotion หรือ Acne Clear Type 3 มีประสิทธิภาพสูงสุดในการลดการอักเสบของสิว ด้วยการ Block Code Acne TYPE 3 ทั้งยังเร่งสมานแผลใต้สิวที่มีการอักเสบเกิดขึ้นบริเวณส่วนกลางของท่อรูขุมขน ทำให้การอักเสบยุบลงเร็ว และป้องกันการอักเสบของสิว TYPE 3 เม็ดใหม่
ผลิตภัณฑ์ Advanced Negative Lotion มีประสิทธิภาพสูงสุดในการลดการอักเสบของสิว ด้วยการ Block Code Acne TYPE 4 และเร่งสมานแผลใต้สิวที่มีการอักเสบเกิดขึ้นบริเวณส่วนล่างของท่อรูขุมขน ทำให้การอักเสบขนาดใหญ่ยุบลงเร็วขึ้น
ความรุนแรงของสิว |
เป้าหมาย |
ผลิตภัณฑ์หลัก |
สิวเปรอะ (Whole Face Acne) |
มีจำนวนของเม็ดสิวทุกชนิดบนใบหน้ารวมกันตั้งแต่ 10 เม็ดขึ้นไป |
เปลี่ยนเป็นสิวประปรายภายใน 8-12 สัปดาห์ |
Acne Clear Lotion หรือ Acne Clear ทาทั่วหน้า |
Acne Touch Type II แต้มเฉพาะจุด |
Advanced Negative Lotion แต้มเฉพาะจุด (ในกรณีมีสิว Type 4) |
สิวประปราย (Localized acne) |
มีจำนวนเม็ดสิวทุกชนิดบนใบหน้ารวมกันน้อยกว่า 10 เม็ด |
– ยุบเร็วไม่มีรอยแดง,รอยดำ
– ป้องกันไม่ให้เป็น whole face |
Comedone Minimizer หรือ Comedone Control Mattifier ทาทั่วหน้า |
Acne Clear Lotion หรือ Acne Clear แต้มเฉพาะจุด |
Advanced Negative Lotion แต้มเฉพาะจุด (ในกรณีมีสิว Type 4) |